‘บีทีเอส’ ซื้อบิ๊กล็อต ‘ศรีพันวา’ เสริมแกร่งรับมือท่องเที่ยวทรุด

โดยการซื้อขายและส่งมอบหน่วยลงทุนที่ซื้อขาย รวมทั้งการชำระค่าซื้อขายหน่วยลงทุนที่ซื้อขาย ได้ดำเนินการผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยวิธีการบันทึกการซื้อขายรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ในวันดังกล่าว

วรสิทธิ อิสสระ ประธานกรรมการ บริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด  กรรมการผู้จัดการ ศรีพันวา และ บาบา บีช คลับ กล่าวว่า เหตุผลที่บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขายหน่วยลงทุนบิ๊กล็อตให้กับบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เพราะทางบีทีเอสสนใจอยากซื้อมานานแล้ว และเป็นการลงทุนเพื่อเข้ามารับผลตอบแทน ทำให้โรงแรมศรีพันวาได้พันธมิตรใหม่ที่ดีและแข็งแรงเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังมองว่าการลงทุนในธุรกิจของศรีพันวายังน่าสนใจอยู่ แม้ว่าภาพรวมปี2562 จะเป็นปีที่แย่ที่สุดของภาคท่องเที่ยวไทยในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ปี2547 ที่เผชิญวิกฤติจากเหตุการณ์สึนามิ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักท่องเที่ยวจีนหายไปจำนวนมาก แต่ผลประกอบการของโรงแรมศรีพันวาก็ยังพอไปได้ เพราะสามารถคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ทุกอย่างจนถึงจุดคุ้มทุน

“ผมมองว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเงียบมาก ก่อนหน้านี้มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ถือหน่วยลงทุนกองทรัสต์ฯรายใหญ่ของโรงแรมศรีพันวาหลายๆ ราย ผมก็บอกว่าปีนี้อาจจะช้าหน่อย แต่ผู้ถือหน่วยลงทุนบอกว่าธุรกิจโรงแรมศรีพันวาน่าจะมีปัญหาน้อยที่สุดแล้วในสถานการณ์แบบนี้”

โรงแรมศรีพันวาจึงได้แก้เกมรับมือตลาดนักท่องเที่ยวเดินทางน้อยลง เพื่อสร้างการเติบโตแก่นักท่องเที่ยวทุกตลาดที่เข้ามาใช้บริการ ให้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% ยกเว้นตลาดจีนที่หายไปกว่า30%ทำให้ต้องเซ็ตทีมทำการตลาดใหม่ ลดการพึ่งพาตลาดจากเอเย่นต์น้อยลง หลังจากโดนกดราคาห้องพัก แต่ไม่มีคอนเน็คชั่นในการดึงลูกค้าชาวจีนมาพักที่โรงแรมศรีพันวามากพอ

แล้วหันไปให้น้ำหนักกับการใช้เครือข่ายเพื่อนฝูงในฮ่องกง 3-4 คนซึ่งมีคอนเน็คชั่นในประเทศจีนจำนวนมาก และเคยทำงานเกี่ยวข้องกับกลุ่มตลาดผู้มีความมั่งคั่งสูง หรือ High Net Worth Individuals มาช่วยโปรโมทโรงแรมศรีพันวา โดยเน้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนระดับไฮเอนด์ในเมืองหลักระดับเฟิร์ส เทียร์ ซิตี้ (First Tier Cities) นอกจากนี้ยังเพิ่มโฟกัสตลาดนักท่องเที่ยวจากสหรัฐ และอื่นๆ มากขึ้นด้วย

“ตลาดใหญ่สุดของโรงแรมศรีพันวาตอนนี้ เป็นลูกค้าคนไทยครองสัดส่วนมากถึง 35% รองลงมาเป็นชาวจีนและสหรัฐ มีสัดส่วนใกล้เคียงกันที่กว่า20%โดยให้ความสำคัญกับเรื่องอีโค-ซิสเต็ม (Eco-System) ภายในโรงแรม ไม่ให้มีหลายตลาดมากเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกค้าบางตลาดหายไปได้”