บิ๊กสเต็ป ‘อีฟแอนด์บอย’ โก! ดิจิทัล เสริมแกร่ง 'บิวตี้เดสทิเนชั่น'
สวนกระแสกำลังซื้อและเศรษฐกิจชะลอตัวในทุกยุคสำหรับธุรกิจบิวตี้! ที่ยังคงรักษาระดับการเติบโต และมองว่าประเทศไทยยังเป็นตลาดศักยภาพสูงในการขยายธุรกิจ แม้ว่าเวลานี้จะมี “ปัจจัยลบ” รุมเร้าตลาดอย่างหนักหน่วงก็ตาม
หิรัญ ตันมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีฟแอนด์บอย จำกัด ร้านค้าปลีกสินค้าความงาม หรือ บิวตี้สโตร์สัญชาติไทยภายใต้แบรนด์ อีฟแอนด์บอย (EVEANDBOY) กล่าวว่า ปีนี้เตรียมงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาทในการขยายสาขา 3 แห่ง จากปัจจุบันมีเครือข่ายสาขารวม 11 แห่ง โดยเตรียมเปิดสาขาแรกของปีนี้ที่ สยามพรีเมียมเอาท์เล็ต ราวเดือน พ.ค.ในคอนเซปต์ใหม่และประสบการณ์ใหม่สำหรับลูกค้า บนพื้นที่ 580 ตร.ม.
3 ปีข้างหน้านี้ (2563-2565) อีฟแอนด์บอย วางแผนเปิดสาขาใหม่ 11 แห่ง เรียกได้ว่า “โตเท่าตัว” สะท้อนถึงโอกาสทางการตลาด! หากเทียบจากธุรกิจ 15 ปีที่ผ่านมา อีฟแอนด์บอย มีเครือข่ายสาขาให้บริการเพียง 11 แห่งเท่านั้น
"ปัจจัยเสี่ยงในตลาดเวลานี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราที่ยังค่อนข้างเล็ก ฉะนั้นมีโอกาสอีกมากในการขยายและสร้างการเติบโต ที่ผ่านมาเราไม่ได้เน้นขยายปีละ 10 สโตร์ แต่ค่อยเป็นค่อยไป ทำแต่ละสาขาให้มั่นคง มีฐานลูกค้าที่แข็งรง จึงจะขยายสาขาต่อ"
ท่ามกลางคู่แข่งจำนวนมากและสถานการณ์ตลาดไม่สู้ดีนัก! อีฟแอนด์บอย เชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ ด้วยฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งสะสมมากว่า 15 ปี ราว 2 ล้านคน ซึ่งแอคทีฟถึง 1 ล้านคน พร้อมการปรับเกมรุกให้ทันความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย คือ สิ่งสำคัญ
"ลูกค้าเมื่อวาน ลูกค้าวันนี้ และลูกค้าวันพรุ่งนี้ ไม่เหมือนกัน สำคัญที่สุด คือ ลูกค้าอยากได้อะไร ธุรกิจต้องค้นหาคำตอบให้ได้เพื่อให้แบรนด์มาตอบโจทย์ ธุรกิจไม่สามารถทำแบบเดิมๆ ได้อีกต่อไป เราไม่ยึดติดกับความสำเร็จกว่า 10 ปีที่ผ่านมา"
บิ๊กสเต็ปของ อีฟแอนด์บอย จากนี้ต้องพาตัวเองไปอยู่ในโลกดิจิทัลเช่นเดียวกับลูกค้า! ภายใน 3-5 ปีจากนี้เชื่อว่า “อีคอมเมิร์ซ” จะเปลี่ยนโฉมหน้าไปอีกมาก ขณะนี้ อีฟแอนด์บอย อยู่ในช่วงของการพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะมีการเปิดจำหน่ายในอีคอมเมิร์ซ มาร์เก็ตเพลส อย่างเป็นทางการในปีนี้ รวมทั้งเครื่องมือทางการตลาดชิ้นสำคัญ “แอพพลิเคชั่น” ที่จะสามารถเชื่อมลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันเตรียมเปิดตัวและมีการสื่อสารอย่างจริงจังในแพลตฟอร์มดิจิทัลในภาพใหญ่ต้นปีหน้า
หิรัญ ยกตัวอย่างว่า ลูกค้าอีฟแอนด์บอยกว่า 1 ล้านคน จะสามารถกดคลิ๊กสั่งซื้อสกินแคร์ให้แอพพลิเคชั่นอีฟแอนด์บอยแล้วรอรับได้เลย เครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้จะทำให้แบรนด์คอนเน็คกับลูกค้าตลอดเวลา
ปัจจุบัน อีฟแอนด์บอย บิวตี้สโตร์รวบรวมไอเท็มยอดฮิตจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 1,000 แบรนด์ทั้งที่เป็นออฟฟิเชียลพาทเนอร์แบรนด์จากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ยุโรป เกาหลี และแบรนด์ของคนไทย ล่าสุดได้จัดอีเวนท์ "EVEANDBOY BEST SELLING AWARDS 2019" ซึ่งการันตีความนิยมจากยอดขายจริงทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในเมืองไทย วัดจากยอดขายสินค้าในร้านอีฟแอนด์บอย 11 สาขา และการขายผ่านอีคอมเมิร์ซ จำนวน 94 รางวัล แบ่งเป็น 9 หมวดหมู่ อาทิ Makeup,Fragrance, Supplement, Skincare, Personal Care, Hair Product, Brush & Accessories, Nails ProductและBath & Body ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็น "บิวตี้ เดสทิเนชั่น”
ปีนี้ อีฟแอนด์บอย มีแผนเพิ่มสินค้าแบรนด์ใหม่ในทุกกลุ่ม รับดีมานด์ลูกค้าเฉพาะบุคคล (Personalize & Customize) มากขึ้น โดยปีที่ผ่านมา อีฟแอนด์บอย ยอดขายเติบโต 19% ทั้งในกลุ่มเพรสทีจและแมส โดยมีสัดส่วนการขายจากกลุ่มเมกอัพ 48% สกินแคร์ 35% น้ำหอม 6% แฮร์แคร์ 3% แอคเซสซอรี 3% เพอร์เซอนัลแคร์ 3% และอื่นๆ 2%