ปรับลดลง
Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้
เราคาดดัชนีฯ ปรับลดลง แนวรับ 1100 / 1076 จุด แนวต้าน 1140 / 1164 จุด ประเด็นที่มีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) การยกระดับการแพร่ระบาดเป็นระดับ 3 ในไทยมีโอกาสสูงขึ้น หลังจานวนผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งขึ้นมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาให้กทม.และปริมณฑล 5 จังหวัด ประกาศปิดบางพื้นที่ชุมชุมหนาแน่นของไทย 2) คลัง ธปท. ก.ล.ต. แถลงมาตรการรองรับสถานการณ์ COVID-19 วานนี้ เน้นสร้าง ความเชื่อมั่นต่อตลาดตราสารหนี้ 3) กนง. มีมติลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนัดฉุกเฉินวันศุกร์ แต่คาดว่าจะมีโอกาสปรับลดได้อีกในกลางปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย 4) ประเทศมหาอานาจทางเศรษฐกิจทยอยประกาศมาตรการช่วยเหลือธุรกิจ SMEs และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในประเทศ 5) Ex-Dividend effect มีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.05 จุด (หลักๆ CNS KCE)
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: ไทย-ดุลการค้าเดือน ก.พ. +USD2.6bn (Vs เดือน ม.ค. -USD1.56bn) ส่งออกเดือน ก.พ. คาด -7.4% YoY (Vs เดือน ม.ค. +3.35%) นาเข้าเดือน ก.พ. คาด -5.4% YoY (Vs เดือน ม.ค. -7.86%), EU-Consumer Confidence เดือน มี.ค. คาด -15.5 (Vs เดือน ก.พ. -6.6)
สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันศุกร์
+ ตลาดหุ้นปิดพุ่งแรง: ตลาดหุ้นไทยปรับสูงขึ้น ตั้งแต่เปิดตลาดและปิดใกล้ระดับสูงสุดของวันที่ 1127.44 จุด +83.05 จุด +7.95% วอลุ่ม 9.3 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่ม ปิโตรฯ +12.87% ขนส่ง +12.68% ไฟแนนซ์ +12.58%
+ ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงต่อ หลังรัฐนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนียประกาศให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป DJ -4.55% S&P500 -4.34% Nasdaq -3.79% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวต่อเนื่อง ขานรับมาตรการกระตุ้นจากธนาคารกลางและรัฐบาลต่างๆ CAC40 +5.01% DAX +3.7% FTSE +0.76%
- น้ำมันดิบร่วง แต่ทองฟื้น: WTI -USD2.69 -10.7% ปิด USD22.53/บาร์เรล Brent -USD1.49 -5.2% ปิด USD26.98/บาร์เรล เพราะวิตกอุปสงค์น้ำมันโลกลดลง ส่วนทองคำฟื้น USD5.3 ปิด USD1484.6/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ประเด็นสำคัญ
- COVID-19 Update ณ วันที่ 21 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 292,142 ราย (+26,069 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 12,784 ราย (+1,600 รายใหม่) นาโดยกลุ่มประเทศสมาชิกอียู นาโดยอิตาลี 53,578 ราย (+6,557) สเปน 24,926 ราย (+4,946) ไทย-สธ. รายงานจานวนผู้ติดเชื้อใหม่วันเสาร์และวันอาทิตย์เพิ่มขึ้น 89 ราย และ 188 ราย เป็น 599 ราย
+ มาตรการคุมการระบาด: USA-หลายรัฐของสหรัฐฯ ประกาศปิดเมือง ได้แก่ California, New York, New Jersey, Illionois, Connecticut, India-ประกาศเคอร์ฟิวส์ 14 ชม., UK-Thailand ปิดร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ โรงภาพยนตร์ ในอังกฤษ / กทม.และ 5 จังหวัดปริมณฑล ตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์
+ มาตรการช่วยเหลือ: USA-Kudlow ชี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีขนาดใหญ่กว่า2Trn หรือ 10% ของ GDP โดยเป็นมาตรการที่ 3 ของรัฐบาลต่อเนื่องจาก USD8.3bn ช่วยสาธารณสุข และ USD100bn ช่วยทดสอบไวรัสฯ ฟรี และค่าชดเชยช่วงป่วย, Germany-รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือ 3.56 แสนล้านยูโร หรือ 10% ของ GDP UK-รัฐบาลให้เงินกู้ช่วยเหลือธุรกิจเอกชน USD390bn และจะให้เงินช่วยเหลือ 80% ของเงินเดือนพนักงานแก่บริษัทต่างๆ โดยสูงสุด คือ 2.5 พันปอนด์ต่อเดือน
- World: ไอเอชเอส มาร์กิต ปรับลด World GDP เป็น 0.7% (หากต่ำกว่าระดับ 2% ถือว่าเกิด Global Recession) โดยคาดว่าญี่ปุ่นเข้าภาวะถดถอยแล้วใน 1Q20E ส่วน EU USA จะเข้าภาวะถดถอยใน 2Q20 โดยทั้งปี 2020E USA -0.2% EU -1.5% Japan -0.8% China 3.9% - ไทย: กทม.และ 5 จังหวัดปริมณฑล สั่งปิดสถานที่เสี่ยงในกทม. เพิ่ม 22 วัน ตั้งแต่ 22 มี.ค.-12 เม.ย. รวม 19 กลุ่ม
+ ไทย: บอร์ดกนง. มีมติเอกฉันท์ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.75% ในการประชุมฉุกเฉินวันศุกร์ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบมีผลวันที่ 23 มี.ค. เป็นต้นไป
+ KBANK: ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR 0.25% เป็น 6.62% และลด MRR ลง 0.12% เหลือ 6.5% และลดดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 0.1-0.25% รวมถึงเงินฝากออมทรัพย์ นิติบุคคลลง 0.05% มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. เป็นต้นไป
กลยุทธ์: Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%
หุ้นแนะนำ รายสัปดาห์: INTUCH CPF MAKRO
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: หุ้นที่มีรายได้แน่นอน RATCH EGCO หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการทางานที่บ้าน กลุ่มไอซีที ADVANC DTAC TRUE หุ้นปัจจัยสี่ CPF MAKRO BJC