กฟภ.รุกกระตุ้นประหยัดไฟ รับมือ 'เวิร์ค ฟอร์ม โฮม' ความต้องการไฟหน้าร้อนพุ่ง

รายงานข่าวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA ระบุว่า กฟภ.ดำเนินโครงการรณรงค์การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและประหยัด (SAVE THAI) เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้แนวคิด “เซฟไทย คนไทยใช้ไฟ เซฟ เซฟ” เพื่อให้คนไทยทุกคนช่วยประหยัดไฟ ด้วยการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และร่วมกันปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและประหยัด

ทั้งนี้ ในช่วง 60 ปี ที่ กฟภ.ได้พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และงานบริการด้านพลังงานไฟฟ้า และพร้อมสำหรับการก้าวสู่ทศวรรษที่ 7 โดยจะมุ่งพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการด้านพลังงานไฟฟ้า นำไปสู่องค์กรที่ยั่งยืนเพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมที่จะเดินหน้าผลักดันโครงการสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟฟ้าและประเทศชาติ

สำหรับโครงการนี้มีเป้าหมายสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการ ทั้งด้านความปลอดภัยและการประหยัดพลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจังและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า 

สำหรับรูปแบบการดำเนินการของโครงการจะยึดหลักการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าเล็งเห็นความจำเป็น และมองว่าการประหยัดเป็นเรื่องใกล้ตัวผ่านทุกช่องทางมีเดีย ทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง โดยนำเสนอแนวคิดสื่อสารข้อมูลการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย การแจ้งเตือน ตลอดจนข่าวกิจกรรมที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดขึ้น โดยยึดหลักสื่อสารตาม “ฤดูกาล”

ประกอบด้วย “SAVE THE SUMMER” ในช่วงฤดูร้อนนี้ จะเน้นประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย.นี้ ซึ่งในช่วงหน้าร้อนจะมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

รวมทั้งสถานการณ์ปัจจุบัน หลายหน่วยงาน เริ่มมีมาตรการให้พนักงานทำงานที่บ้านหรือ Work from Home สนองนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ที่ทั่วโลกนำมาใช้เพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการประหยัดไฟและใช้ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ

โดยช่วงฤดูร้อนปีนี้ กฟภ.ได้จัดกิจกรรมให้ประชาชนประหยัดไฟฟ้า โดยเชิญชวนประชาชนถ่ายรูปบิลค่าไฟ 2 เดือน (มี.ค.–เม.ย.) หรือตั้งแต่เดือน เม.ย.–พ.ค.นี้ แล้วส่งมาที่แฟนเพจ เซฟไทย ผู้ใช้ไฟที่มีค่าไฟลดลงร่วมลุ้นรับทองคำมูลค่ากว่า 5 แสนบาท

ส่วนในฤดูฝนจะมีโครงการ “SAFE IN THE RAIN” ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.นี้ ซึ่งมีอัตราเสี่ยงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งอาจเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ ลมพายุฝนรุนแรง น้ำท่วม ไฟดับ ย่อมส่งผลกระทบด้านความปลอดภัยของการใช้ไฟฟ้าอย่างมาก จึงต้องเร่งให้ความรู้เข้าใจด้านการจัดการความปลอดภัย

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีมีโครงการ “SAVE THAI’S HAPPINESS” ช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ ซึ่งมีสภาพอากาศหนาวเย็นและเป็นช่วงเทศกาล จึงมีเป้าหมายสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและประหยัด