สถาบันอัญมณีฯ เร่งถกเอกชนแก้ปมส่งออกวูบ เหตุพิษโควิด-19
สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยเดือน 2 เดือนแรกปี 63 ร่วง 18.01% มูลค่าเพียง 1 พันกว่าล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 สั่งจีไอทีถกภาคเอกชนหาแนวทางบรรเทาผลกระทบ
รายงานข่าวจากระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด -19 ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกที่สำคัญ ทำให้การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ในเดือนม.ค. – ก.พ. 2563 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 18.01 % โดยมีมูลค่าส่งออก 1,125 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยลดลงในทุกตลาด
“ตัวเลขการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับนี้ไม่นับรวบการส่งออกทองคำ เนื่องจากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี ในเดือนก.พ. 2563 ทั้งนี้เพื่อให้เห็นภาพการส่งออกเฉพาะอัญมณีและเครื่องประดับ จึงต้องนำตัวเลขทองคำมาหักออก”
ดังนั้น สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางด้านอัญมณีและเครื่องประดับประสานไปยังภาคเอกชน เพื่อสรุปสถานการณ์ และ ข้อเสนอแนะในการช่วยเหลือผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับ ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และ โควิด -19 ที่ส่งผลกระทบต่อ ภาคธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอย่างเร่งด่วน โดยจะมีการจัดประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ สถาบันการเงินต่างๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไข
สำหรับอัญมณีและเครื่องประดับไทยถือได้ว่าเป็นสินค้าสำคัญที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศได้สูงเป็นอันดับ 3 ในปี 2562 ในบรรดาสินค้าส่งออกของประเทศทั้งหมด ซึ่งประเทศไทยถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตและส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับอันดับที่ 12 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินอันดับ 1 อีกทั้งเป็นผู้ส่งออกพลอยสีอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐและฮ่องกง โดยการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในปี 2562 มูลค่า 15,689ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30.91% แต่ถ้าหักทองคำ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความผันผวนออก การส่งออกมีมูลค่า 8,095.65 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.34%