'ไวส์ โลจิสติกส์' เมินโควิด มั่นใจการลงทุน 'อีอีซี' พุ่งหลังระบาดจบ
"ไวส์ โลจิสติกส์" ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในอีอีซี มั่นใจธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิดครั้งนี้ ชี้การลงทุนในภาคตะวันออกจะกลับมาหลังการระบาดยุติ
ชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ WICE ได้ขยายฐานการให้บริการลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยฐานโลจิสติกในไทยที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ให้บริการลูกค้าส่วนใหญ่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และสาขาในจีน ที่เมืองเซียงไฮ้ , กวางโจว , เซินเจิ้น , ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งมีลูกค้าหลักอยู่ในเอเชียประมาณ 70% ที่เหลือกระจายไปทั่วโลก
ส่วนกลุ่มลูกค้าหลักของ WICE จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 40-50% อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ 10-20% ที่เหลือกระจายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนอากาศยาน ฮาร์ทแวร์ และธุรกิจขนส่งค้าปลีก ซึ่งได้มีอุตสาหกรรมใหม่ๆที่หลากหลายเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง
สำหรับ วิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศในภาพรวมประมาณ 30-40% แต่ในส่วนของ WICE ได้รับผลกระทบไม่มากนักประมาณ 10% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายยอดขายในปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งจากปัญหาโควิด-19 ที่เกิดขึ้นบริษัทจะประเมินผลกระทบอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้
อย่างไรก็ตาม ยังคงมั่นใจว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปีก่อนได้ลงทุนด้านการขนส่งข้ามแดนเป็นจำนวนมาก ทำให้ขยายเส้นทางการขนส่งจากไทยไปยังทุกประเทศในอาเซียนไปจนถึงมณฑลทางตอนใต้ของจีน
WICE ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่มาก เพราะกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ ขณะที่ลูกค้าหลัก คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังไม่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งการปิดชายแดนหรือปิดเมืองของประเทศจะห้ามเฉพาะการขนส่งคน แต่การขนส่งสินค้ายังดำเนินงานได้ตาปกติ
"ก่อนหน้านี้มีการลงทุนขนส่งสินค้าผ่านแดน ทำให้มีรายได้ในส่วนนี้เข้ามามากขึ้น ซึ่งการที่ลูกค้ากลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ลดลงทำให้เราต้องหาลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เจาะกลุ่มตลาดใหม่ๆได้เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว”
ด้านเส้นทางขนส่งของ WICE จะครอบคลุมทุกด้าน โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขนส่งทางอากาศ 35%, การขนส่งทางทะเล 30%, ขนส่งสินค้าข้ามชายแดน 19% , และงาน Logistics 16% ซึ่งปัจจุบันต้นทุนการขนส่งสินค้าทางอากาศปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากการหยุดทำการบินในส่วนการขนส่งผู้โดยสารแม้การขนสินค้าจะยังทำการปกติก็ตาม
สำหรับสถานการณ์ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาพรวมการขนส่งจะเปลี่ยนไปตามตลาดสินค้าที่เปลี่ยนแปลง โดยลูกค้าจะหันมาปรับห่วงโซ่การผลิตการจัดซื้อจัดจ้าง
โดยจะขยายการลงทุนตั้งฐานการผลิตไปยังประเทศต่างๆไม่ให้มากระจุกตัวเพียงบางประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากเกิดโรคระบาดระดับโลก หรือหากประเทศหนึ่งมีปัญหาก็ยังผลิตสินค้าในฐานการผลิตประเทศอื่นได้ ซึ่งทำให้การขนส่งสินค้ากระจายตัวไปยังประเทศต่างๆในเอเชียเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของ WICE ที่มีบริษัทย่อยให้บริการกระจายในเมืองสำคัญของเอเชียตะวันออก 6 แห่ง
ส่วนแผนการลงทุนในอนาคต มีแผนที่จะไปตั้งบริษัทย่อยในอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียด แต่แผนการลงทุนต่างประเทศอาจจะต้องชะลอออกไป เพราะปัญหาการระบาดของโควิด-19 แต่ในส่วนของการซื้อหุ้นเพิ่มทุนยังคงทำต่อไป โดยจะเข้าไปเพิ่มทุนที่ WICE สิงคโปร์ อีก 30%
ส่วนตลาดใน อีอีซี นั้น แม้ว่าจะขยายตัว แต่ก็จะไม่รวดเร็วเหมือนในอดีตที่มีการลงทุนอิสเทิร์นซีบอร์ด เพราะในช่วงนั้นเศรษฐกิจไทยโตในระดับ 9-10% ต่อปี แต่ในโครงการ อีอีซี เศรษฐกิจไทยจะไม่โตเร็วเหมือนในอดีต เพราะเศรษฐกิจไทยมีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก
ทำให้รายได้ส่วนใหญ่ของ WICE ในขณะนี้จะมาจากต่างประเทศ 70% ที่เหลือ 30% เป็นรายได้ภายในประเทศ และในอนาคตสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะยิ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จากการขยายสาขาในเอเชียตะวันออก และการค้าขายในเอเชียจะเติบโตมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทวางแผนจะขยายการให้บริการโลจิสติกส์ในครอบคลุมทุกรูปแบบ ทั้งการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ผ่านการทำงานร่วมกันกับเครือข่ายสาขาของ WICE ทั้งหมด
โดยมุ่งเน้นตลาดจีนเป็นหลัก ทั้งในฮ่องกง เซียงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าขนาดกลางและขนาดเล็กเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าว มีโอกาสย้ายฐานการผลิตมายังไทย ซึ่งความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างประเทศของ WICE ในตลาดจีน ทำให้บริษัทมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในจีนมากขึ้น และมีโอกาสรับงานขนส่งขาไปและขากลับได้ ส่งผลให้มีปริมาณงานในจีนเพิ่มขึ้น
ในส่วนของการดำเนินงานของ WICE Supply Chain Solutions บริษัทย่อย ให้บริการด้าน Supply Chain ครบวงจร ทั้งงานคลังสินค้า การ
กระจายสินค้า การขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ มีแนวโน้มที่ดี จากการขยายตัวของปริมาณงานบริหารจัดการคลังสินค้า และการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อีอีซี ประกอบกับผู้นำเข้าส่งออกในปัจจุบันหันมาใช้บริการในรูปแบบ Third Party Logistics มากขึ้น โดยบริษัทมีพื้นที่ให้บริการคลังสินค้าจำนวน 1 แห่ง ขนาด 15,000 ตร.ม.