‘สลัดแฟคทอรี่’ปั้นโมเดล'ครัวกลาง-ป๊อปอัพสโตร์'สู้โควิด

ทั้งนี้บริษัทได้มีการปรับแผนธุรกิจมุ่งเน้นการขยายสาขาใหม่รูปแบบ Cloud Kitchen หรือจัดตั้งครัวกลาง เน้นการส่งตรงถึงบ้าน หรือ ดีลิเวอรี่ โดยใช้พื้นที่ครัวเป็นหลัก ไม่มีบริการแบบนั่งทานที่ร้าน ซึ่งในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ นับเป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโตของยอดขาย เนื่องจากการขยายสาขาในรูปแบบนี้สามารถทำได้รวดเร็วและลงทุนไม่สูงมากนัก

ประเดิมเปิดครัวกลาง “ย่านอารีย์” หนึ่งในพื้นที่ที่มีความน่าสนใจในเชิงของผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อ และความหนาแน่นของประชากรสูง

นอกจากนี้ ได้พัฒนาโมเดล “ป๊อปอัพสโตร์”  เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงและการใช้บริการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด รวมถึงยังเป็นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์อีกทางหนึ่งด้วย เน้นเปิดบริการบริเวณโซนด้านหน้า ท็อปส์ มาร์เก็ต ในหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ เช่น เมกาบางนา สีลมคอมเพล็กซ์ เซ็นทรัลพระราม3 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เป็นต้น

“สลัดแฟคทอรี่ มุ่งการดำเนินธุรกิจแบบเติบโตไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งแบรนด์และบุคลากรของแบรนด์ รวมไปถึงซัพพลายเออร์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากขณะนี้ เรายังคงดูแลทุกคน ไม่มีการปลดพนักงานออก แต่เร่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กรให้พร้อมปรับตัวในทุกสถานการณ์"

พร้อมกันนี้ สลัดแฟคทอรี่ ได้ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์กลุ่มเกษตรกรต่างๆ เพื่อสร้างความอยู่รอด ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวร่วมกััน

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างการรับรู้ต่อโมเดลธุรกิจใหม่ สลัดแฟคทอรี่ พร้อมเสิร์ฟวัตถุดิบจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ไร้สารพิษ ซึ่งมีน้ำสลัดและซอสแบบโฮมเมดกว่า 20 ชนิด จัดแคมเปญส่งเสริมการตลาดเน้นการบริการแบบดีลิเวอรี่ หรือส่งตรงถึงบ้าน เช่น บริการส่งฟรี 5 กิโลเมตรแรกสำหรับบางสาขา ส่วนลด 50 บาทเมื่อสั่งผ่านช่องทาง Line OA : @SaladFactory และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสาขาใหม่ อารีย์ ซอย 2 ให้ส่วนลด 100 บาท เมื่อซื้อครบทุก 500 บาท