DTAC - ถือ
ผลประกอบการ 1Q63: กำไรหลักยังทรงตัว YoY
Event
กำไรสุทธิของ DTAC ใน 1Q63 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (+89% QoQ, +16% YoY) โดยมีรายการพิเศษ 119 ล้านบาท (กำไรจากการประเมินมูลค่าเหมาะสมของตราสารอนุพันธ์ 114 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหลังภาษี 21 ล้านบาท และขาดทุนจากการป้ องกันความเสี่ยง 16 ล้านบาท) ทั้งนี้ ผล
ประกอบการออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ 21% และดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 10%
lmpact
กำไรหลักใน 1Q63 ยังทรงตัว YoY
หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักใน 1Q63 จะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (-4% QoQ, ทรงตัว YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา 12% โดยกำไรที่ดีเกินคาดเป็นเพราะค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่ำกว่าที่คาดไว้ 3% ทั้งนี้ กำไรหลักที่ชะลอตัว QoQ เป็นเพราะรายได้จากยอดขายและบริการลดลง 6% เหลือ 2.01 หมื่นล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการให้บริการลดลง (-2% QoQ) และยอดขายเครื่องมือถือลดลง (-38%QoQ) ส่วนกำไรหลักที่ทรงตัว YoY เป็นเพราะต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 5% YoY จากการขยายโครงข่าย ซึ่งไปหักล้างกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น 3% YoY
ARPU เพิ่มขึ้น YoY แต่ลูกค้ายังคงลดลง
จำนวนลูกค้าของ DTAC ใน 1Q63 ลดลง 1.0 ล้านเลขหมาย ทำให้ฐานผู้ใช้บริการลดลงเหลือ 19.6 ล้านเลขหมาย (-5% QoQ, -5% YoY) เนื่องจากลูกค้าแบบเติมเงินลดลง 744,000 เลขหมาย จากการแข่งขันที่รุนแรง ในขณะที่ลูกค้าแบบรายเดือนก็ลดลง 272,000 เลขหมาย หลังจากที่มีการเคลียร์บัญชีลูกค้าไปบางกลุ่ม ทั้งนี้ ARPU ใน 1Q63 อยู่ที่ 251 บาท/เลขหมาย/เดือน (-3% QoQ, +6% YoY) โดย ARPU ที่ลดลง QoQ เพราะถูกกดดันจากสถานการณ์ COVID-19 ในขณะที่ ARPU เพิ่มขึ้นได้ YoY เพราะ ARPU ของลูกค้าแบบรายเดือนยังเพิ่มขึ้น
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่ดีกว่าคาดใน 1Q63
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักในปี 2563 เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่ดีกว่าคาดใน 1Q63 โดยเราได้ปรับสมมติฐานสำคัญดังนี้ i) ปรับลดประมาณการรายได้ปี 2563 ลง 1% และปี 2564 ลง 0.4% จากการที่เราปรับลดสมมติฐาน ARPU และ ฐานลูกค้าลง ii) ปรับลดประมาณการต้นทุนปี 2563 ลง 4% และปี 2564 ลง 2% เนื่องจากเราปรับลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับโครงข่ายลง iii) ปรับลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ปี 2563 ลง 2% และปี 2564 ลง 1% และ iv) ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี IFRS 16 โดยภายหลังจากปรับสมมติฐานต่างๆ ดังกล่าวแล้วทำให้ประมาณการกำไรปี
2563-64 ของเราเพิ่มขึ้น 10%และ 5% เป็น 5.5 พันล้านบาท และ 3.7 พันล้านบาทตามลำดับ
Valuation & Action
เมื่ออิงตามประมาณการใหม่ เราคาดว่าราคาเป้าหมาย DCF จะเพิ่มขึ้นจาก 42.00 บาท เป็น 47.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 10.9%) และปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ”
Risks
รายได้ต่ำเกินคาด และการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น