ตื่นถอนเงินสหกรณ์ 'การบินไทย' ยันสภาพคล่องปึ้ก 4 พันล้าน

ตื่นถอนเงินสหกรณ์ 'การบินไทย'  ยันสภาพคล่องปึ้ก 4 พันล้าน

สหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทย วอนสมาชิกอย่าตื่นตระหนกถอนเงินโดยไม่จำเป็น ยันมีสภาพคล่อง 4 พันล้านบาท ชี้ถอนเงินวันละ 60-80 ล้านบาท ไม่ผิดปกติ พร้อมระบุหากการบินไทยมีปัญหา สหกรณ์จะเป็นเจ้าหนี้ได้รับเงินคืนเป็นส่วนแรก

นายพิทยา ทิพยโสตถิประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูการบินไทยได้ เนื่องจากทางสหกรณ์ฯ ยังรอดูความชัดเจนของมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากนั้นจึงจะออกนโยบายรองรับเกี่ยวกับการบริหารเงินในสหกรณ์ฯ

อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ขอให้สมาชิกสหกรณ์ฯ อย่าตื่นตระหนกกับข่าวสารของบริษัทการบินไทย ส่วนแถลงการณ์ของสหกรณ์ฯ ถึงสมาชิกเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต้องการชี้แจงให้สมาชิกทราบว่ายังมีการเบิกถอนเงินได้ตามความจำเป็น อย่าตื่นตระหนกจนเกิดภาวะถอนเงินทั้งหมด และยังยืนยันว่าสภาพคล่องในสหกรณ์ขณะนี้ยังมีสูงถึง 4 พันล้านบาท

“เฉลี่ยสมาชิกของเราจะถอนเงินอยู่ที่ 30-40 ล้านบาทต่อวัน ปัจจุบันก็ไม่ถือว่าเป็นภาวะผิดปกติ มีการถอนเงินหมุนเวียนอยู่ที่ 60- 80 ล้านบาท ซึ่งในช่วงวิกฤติทางการเงินเช่นนี้ ส่วนตัวมองว่าไม่ได้เป็นภาวะที่แปลก เป็นการถอนออกเป็นเงินหมุนเวียนที่เป็นส่วนของเงินกู้ด้วย”

อย่างไรก็ตามหากการบินไทยเข้าสู่ขบวนการล้มละลาย จะต้องมีการร้องขอฟื้นฟูกิจการตามขั้นตอนของกฎหมายซึ่งจะมีเงื่อนเวลา ไม่ใช่เกิดขึ้นทันที รวมทั้งสหกรณ์ฯ จะกลายเป็นเจ้าหนี้ ซึ่งตามกฎหมายจะได้รับสิทธิ์ในการชำระหนี้คืนก่อนเป็นลำดับแรก ดังนั้นจึงไม่มีความกังวลอะไร

วางเกณฑ์ถอนเงินใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรยุทธ หอมสุคนธ์ รองประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัท การบินไทย ได้ออกประกาศสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงาน บริษัท การบินไทย โดยระบุว่า สหกรณ์ฯ มีการดำรงสภาพคล่องอยู่ในปัจจุบันประมาณ 4 พันล้านบาท แต่จากการตื่นตระหนกต่อข่าวสารของบริษัทอาจส่งผลให้สหกรณ์ฯ มีปัญหาด้านสภาพคล่องขึ้นได้ ดังนั้นสหกรณ์จึงกำหนดให้

1.สมาชิกซึ่งมีความต้องการถอนเงินฝากจำนวนมากกว่าครั้งละ 300,000 บาท หรือ เดือนละ 300,000 บาท โดยไม่มีเหตุผลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลความเจ็บป่วยใดๆ ของตนหรือบุคคลในครอบครัว จะไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติ 

2.ขอให้สมาชิกทั้งหมดของสหกรณ์ฯมีความเชื่อมั่นในความมั่นคงของสหกรณ์ในฐานะเจ้าหนี้ของบริษัทการบินไทยซึ่งบริษัทไม่เคยผิดนัดการชำระหนี้

3. สหกรณ์ฯ ยังสามารถทำกำไรในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาได้มากกว่า 460 ล้านบาทแม้ว่าสถานการณ์ของบริษัทจะมีปัญหา เนื่องจากสหกรณ์และบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อกันนอกจากในฐานะสหกรณ์ฯ เป็นเจ้าหนี้และบริษัทการบินไทยเป็นลูกหนี้ 

กรมส่งเสริมมั่นใจไม่กระทบ

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ต้องรอรัฐบาลว่าจะให้การช่วยเหลือ บริษัทการบินไทย ในลักษณะใด เพื่อใช้เป็นแนวทางการตัดสินกรณีเกิดผลกระทบกับสหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทย ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่า สหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทย ยังเเข็งแรงและมีสภาพคล่องที่ดี แม้ว่าสมาชิกของ 82 สหกรณ์ จะมีความกังวลกรณี หุ้นกู้ 42,229 ล้านบาท 

กรมฯยืนยันว่าจะไม่เกิดผลกระทบแน่นอน โดยหุ้นกู้เหล่านี้ทั้งหมดเป็นคิดเป็น 3.62 % ของเงินที่นำไปลงทุนเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าสถานะการเงินของ 82 สหกรณ์เหล่าดียังอยู่ในระดับที่ดีมาก เมื่อดูสัญญาการไถ่ถอน หรือชำระหนี้คืนให้กับ 82 สหกรณ์ พบว่าจะเริ่มครบกำหนดตั้งแต่ปี 2563-2577 โดยในปี 63 นั้นมี 20 สหกรณ์ วงเงิน 1,108 ล้านบาท โดยจะทยอยครบกำหนดตั้งแต่เดือน ส.ค.- ก.ย. เป็นต้นไป

ปัจจุบันหนี้ดังกล่าว สหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทย ยังระบุว่าจะชำระได้ตามปกติ แต่ในกรณีที่ยังไม่สามารถชำระได้ ก็ต้องรอดูการปิดงบประมาณของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. ว่าจะมีการตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้ได้หรือไม่ ในกรณีที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่ได้จริงๆ ทั้ง 20 สหกรณ์ จะต้องตั้งเงินสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 100 %

อย่างไรก็ตามกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่ดูแลอยู่ จะใช้อำนาจนายทะเบียนของอธิบดี เข้าไปใช้มาตรการผ่อนคลายเพื่อไม่ให้ทั้ง 20 สหกรณ์ต้องตั้งเงินสำรองหนี้ ดังกล่าว เพราะจะส่งผลกระทบกับสภาพคล่อง และการจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิก

เตือนอย่าตื่นถอนเงิน

สำหรับกรณีที่สมาชิกถอนเงินออกจากสหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทยจำนวนมากนั้น พบว่าใน 82 สหกรณ์มีเพียง 7- 8 สหกรณ์ ที่ถอนวันละ 100-300 ล้านบาท ที่เหลือก็เป็นการถอนของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทยปกติ โดยสหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทยได้ตั้งเพดานการถอนเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน

“การที่สมาชิกแห่เข้าไปถอนเงิน เป็นเรื่องเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบกับสหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทยมาก หากยังไม่หยุด สมาชิกเองนี่แหละจะเป็นคนทำให้สหกรณ์ล้ม ดังนั้นจึงให้คณะกรรมการของสหกรณ์ฯไปสร้าง และทำความเข้าใจกับสมาชิก เพื่อไม่ให้ถอนเงินออกมากเกินไป ซึ่งรอดูสัปดาห์หน้าว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไร“

โดยปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทย มีเงินสดในขณะนี้ 2,000 ล้านบาท และมีหุ้นพร้อมแปลงอีก 5,000 ล้านบาท หรือรวมมีเงินสภาพคล่องรวม 7,000 ล้านบาท มีการปล่อยกู้ให้กับสมาชิก 28,000 ล้านบาท และ ซื้อหุ้นกู้การบริษัทบินไทย1,300 ล้านบาท  

แห่ถอนเงินสหกรณ์ตำรวจ

ท่าทีของสหกรณ์ต่างๆภายหลังจากที่การบินไทยเข้าแผนฟื้นฟู อาทิ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด ได้ร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวน 97,206,026 บาท และสหกรณ์ออมทรัพย์ โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด ได้ร่วมลงทุนเป็นเงิน 768,844,500 บาท

โดยหลังมีข่าวทำให้สมาชิกสหกรณ์เกิดความกังวลใจต่อการลงทุนดังกล่าว พร้อมเดินทางมาขอถอนเงินจำนวนมาก ทำให้สหกรณ์ฯต้องกำหนดให้ถอนได้ไม่เกินรายละ 300,000 บาท ต่อคนต่อวัน

รายงานข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ เป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ให้ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ดูว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ ซึ่งได้เครดิตระดับ B+ ถือเเป็นเรทติ้งที่สามารถลงทุนได้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาสามารถจ่ายหนี้ จ่ายดอกเบี้ยได้ตามเวลา แต่เผชิญมาเจอภาวะวิฤติของการบินไทย ที่มีปัญหาขาดทุนและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีปัญหาหนัก แต่ย้ำว่าสหกรณ์ฯร่วมลงทุนแค่ 700 ล้าน มีทุนสำรองเพียงพอสามารถครอบคลุมหุ้นส่วนนี้ได้หมด

ดังนั้นไม่มีปัญหาถ้าหากหนี้ส่วนหนี้จะสูญ หากล้มละลาย จะไม่กระทบกับเงินฝาก,เงินปันผลสวัสดิการอื่นๆของสมาชิกแน่นอน อย่างไรก็ตามสมาชิกส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในองค์กรฯ ส่วนผู้ที่มาถอนส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสมทบ ซึ่งทางสหกรณ์ฯย้ำว่าจะหาเงินมาคืนสมาชิกที่ต้องการถอนให้ครบ เพียงแต่ต้องขอเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะต้องดึงเงินที่ลงทุนจากที่อื่น