HMPRO - ถือ

Event

อัพเดตข้อมูลบริษัท และปรับประมาณการ

lmpact

ผลกระทบจากการปิดห้างจะลดลงไปบางส่วนจากการคลายมาตรการ lockdown

74% ของสาขาทั้งหมดของ HMPRO ต้องปิดบริการชั่วคราวในเดือนเมษายน (83 สาขาจากทั้งหมด 113 สาขา) การที่รัฐบาลเริ่มคลายมาตรการคุมเข้มในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมทำให้สาขาของ HMPRO ทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง และทุกสาขากลับมาเปิดใหม่เมื่อ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศผ่อนคลายมาตรการ lockdown เฟสที่สอง ซึ่งเร็วกว่าที่เราคาดไว้ว่าจะประกาศในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 เนื่องจากประเทศไทยสามารถคุมยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงแม้ว่ายอดขายในเดือนเมษายนจะลดลงอย่างไม่มีทางเลี่ยงถึง 50% แต่เราคาดว่าน่าจะฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤษภาคม ดังนั้น เราจึงคาดว่า HMPRO น่าจะยังมีกำไรสุทธิในไตรมาสที่สอง

ผลประกอบการจะฟื้นใน 2H63 แต่กำไรในปี นี้จะยังคงหดตัวอยู่ดี

เราคาดว่ากำไรของ HMPRO จะเพิ่มขึ้น QoQ ทั้ง ใน 3Q63 (จากฐานที่ต่ำใน 2Q63) และ 4Q63 (เนื่องจากตามปกติแล้วจะเป็นช่วง peak ของผลประกอบการบริษัท) แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลประกอบการในสองไตรมาสหลังของปีน่าจะลดลง YoY เนื่องจาก i) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงลดลงต่อเนื่องจนต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 47.2 ในเดือนเมษายน (Figure 3) ซึ่งอาจจะเป็นการแสดงถึงความกังวลและความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย ii) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อ่อนแอ หลังจากที่อุปทานใหม่ลดลงถึง 43%YoY ใน 4M63 โดยนักวิเคราะห์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของเราประเมินว่า อุปสงค์ในปี 2563 จะลดลงถึง 40% YoY เหลือเพียง 60,000 ยูนิต

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563 ขึ้นอีก 20%

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563 ขึ้นอีก 20% เพื่อสะท้อนการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ที่เรากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เราก็ยังปรับสมมติฐานการเปิดสาขาใหม่จาก 4 สาขาในปีนี้เหลือแค่ 2 สาขา ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิของ HMPRO ในปีนี้จะลดลง 27% YoY และจะพลิกกลับมาโตได้ 29% YoY ในปี 2564 ทั้งนี้ เราใช้สมมติฐาน SSSG ปี 2563 ที่ -13% และปี 2564 ที่ +10%

Valuation & Action

เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF 1H64 ที่ 14.90 บาท โดยใช้ WACC ที่ 8.3%, R(f) 3.1% และ T(g) 2.0% เรามองว่าราคาหุ้น HMPRO ค่อนข้างแพงแล้ว โดยคิดเป็น PER ที่ 42X ในขณะที่เหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายอีกไม่มากแล้ว ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ถือ HMPRO โดยมองว่าผลประกอบการที่ดีขึ้นใน 2H63 อาจจะเป็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้บ้าง

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง เกิด disruption จากเทคโนโลยีใหม่ ภาวะโลกร้อน ขยายสาขาได้ช้ากว่าที่คาดไว้