'ออเนอร์' พลิกกลยุทธ์ นำเครื่องประดับจ่ายดาวน์

'ออเนอร์' พลิกกลยุทธ์ นำเครื่องประดับจ่ายดาวน์

ในยุคโควิดที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องวิ่งหาทางรอด ด้วยการยอมปล่อยคอนโดมิเนียม สต็อกสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่คงค้างอยู่จำนวนมาก เพื่อกำเงินสดรักษาสภาพคล่องธุรกิจ จึงเกิดการถล่มแคมเปญ "สงครามราคา" ขายหั่นราคากำไรบางจนถึงยอมขายขาดทุนกำไร

คริส เชิดสุริยา ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ออเนอร์ กรุ๊ป จำกัด (Honour Group) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ พัทยา โดยเปิดตัวโรงแรมไปแล้วกว่า 4 แห่ง เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบกับธุรกิจอสังหาฯของบริษัท ทั้งที่เป็นคอนโดมิเนียม และโรงแรม ซึ่งเป็นโครงการอสังหาฯผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ตั้งอยู่พัทยาเหนือ เนื้อที่ 4 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 3,100 ล้านบาท โดยเปิดการขาย (Presale) ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา คือ คอนโดมิเนียม วันส์ พัทยา จำนวน 427 ยูนิต ราคาขาย 120,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) มูลค่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2565 

159074211456

ส่วนโครงการที่ 2 พื้นที่ติดกัน โรงแรม ฮิลตัน การ์เด้น อินน์ จำนวน 320ห้องคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2565 รวมถึงมีร้านค้าปลีกพื้นที่ 2,000 ตร.ม.ในโครงการ รวมมูลค่า 1,100 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการคอนโด ขายไปแล้ว 50% โดยมีเริ่มทยอยทำสัญญาจ่ายเงินดาวน์ 30%ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อเกิดผลกระทบโควิด จึงต้องยืดระยะเวลาการจ่ายเงินดาวน์ให้กับลูกค้าโดยเฉพาะ ลูกค้าต่างชาติที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 20%

อย่างไรก็ตาม แม้หลายโครงการจะหาทางออกจากวิกฤติด้วยการนำคอนโดลดราคา แต่สำหรับโครงการวันส์ฯที่เปิดตัวไป ยังไม่มีนโยบายที่จะลดราคาตามตลาดเพื่อเร่งทำยอดขาย เนื่องจากยังมีเวลาในการก่อสร้างและทำยอดขาย สามารถรอสถานการณ์สงบลูกค้าที่ซื้อโครงการไว้ก่อนหน้าจะมาจ่ายเงินดาวน์ และบางรายพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ เพราะเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา เป็นจุดที่เชื่อมต่อกับรถไฟรางเบา ผ่านเข้าเมือง และเชื่อมต่อกับสนามบินแห่งใหม่ อู่ตะเภา จึงรอการโอนเงินดาวน์ที่ขายไปแล้วกว่า 50% ขณะที่โรงแรมก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นก่อสร้างในปลายปี จึงถือว่าในภาวะวิกฤติเป็นจังหวะเวลาในการพัฒนาโครงการให้เสร็จ เพื่อรอให้พัทยากลับมาฟื้นตัวและกลับมาคึกคักในปีที่โครงการแล้วเสร็จ

“โครงการที่เปิดตัวไปในกลางปีที่ผ่านมา ยังสามารถทำยอดขายได้ตามปกติ แม้จะเลื่อนการจ่ายเงินดาวน์ แต่ยังสามารถรอเวลาและโอกาสภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 กลับมาดีขึ้น คนเดินทางปลอดภัยมากขึ้น ก็ทำให้ผู้ที่ซื้อต่างชาติ รวมถึงคนไทยกลับมาโอนได้ เพราะทำเลที่ตั้งโครงการใจกลางเมืองพัทยามีเพียงไม่กี่แปลงที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นจุดที่สะดวกในการเดินทาง ที่สำคัญภายหลังจากสถานการณ์สงบ พัทยาก็ยังมีความน่าสนใจในการเข้ามาพักอาศัยของชาวต่างชาติ” เขากล่าว

คริส ยังเผยถึงกลยุทธ์การหาทางรอด ผ่อนคลายปัญหาลูกค้าขาดสภาพคล่องในช่วงวิกฤติ ว่าจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของบริษัท ทองสุกโกลด์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในครอบครัวทำธุรกิจเครื่องประดับ (Jewelry) ตั้งแต่ เพชร และทองคำหาทางเลือกทำให้ลูกค้าไม่ทิ้งการจองและยังพร้อมทำสัญญาการซื้อขายกับคอนโด ด้วยการจัดแคมเปญ จ่ายเงินดาวน์ หรือ โอน ด้วยการนำเครื่องประดับ ทรัพย์สินสะสม ของมหาเศรษฐีมาตีราคาเป็นมูลค่าเงินให้กับคอนโด เป็นการช่วยให้กับลูกค้าที่ขาดสภาพคล่อง โดยไม่ทิ้งการซื้อขาย

เขายังกล่าวถึงวิธีการบริหารธุรกิจโรงแรมเครือออเนอร์กรุ๊ป ที่มี 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.โรงแรม สวีท เซนส์ จอมเทียน (Sweet Sense Jomtien Hotel) เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2553 มีจำนวน42 ห้อง, 2.โรงแรม เดอะไซมีส พัทยา (The Siamese Hotel )เปิดปี 2556มีจำนวน 123ห้อง, โรงแรม ที พัทยา (T Pattaya Hotel)เปิดดำเนินการปี 2559 มีจำนวน 97 ห้อง และ โรงแรม เอ็กซ์คิว พัทยา (XQ Pattaya Hotel)เปิดปี 2562 มีจำนวน 60 ห้องโรงแรมทั้ง 4แห่ง ต้องปิดตัวในช่วงวิกฤติโควิด จึงหาทางออกสร้างงานให้กับพนักงานที่ต้องดูแลกว่า 200 คน พร้อมกันกับนำที่ดินเปล่าด้านหลังโรงแรมกว่า 3 ไร่ครึ่ง มาทำเป็นแปลงปลูกผัก ออแกนิค ที่จะใช้เป็นวัตถุดิบป้อนโรงแรมในเครือ และจะกลายเป็นจุดขายให้กับโรงแรมในอนาคต

159074211421

“เทรนด์สุขภาพของนักท่องเที่ยวเริ่มต้องการอาหารออแกนิคมากขึ้น ดังนั้นวิกฤติจึงเป็นการปรับปรุงหลังบ้านโดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีด้านคน และที่ดิน ทำเป็นแปลงปลูกผักสวนครัวป้อนให้กับโรงแรมในเครือ ที่ช่วยทำให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัย ประหยัดวัตถุดิบป้อนโรงแรม และทำให้กลายเป็นจุดขายสร้างแบรนด์ให้กับโรงแรมในอนาคต”