‘ซิซซ์เล่อร์’ รับแลนด์สเคปเปลี่ยน! ปรับแผนลุยทูโก-คลาวด์คิทเช่น-ดีลิเวอรี
วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบภาคธุรกิจเผชิญภาวะยากลำบากตั้งแต่เดือนสุดท้ายของไตรมาสแรกต่อเนื่อง “ไตรมาสสอง” ที่เรียกได้ว่าหนักสุด! พร้อมการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในหลายด้านนำสู่การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้
กรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้ให้บริการร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ “ซิซซ์เล่อร์” กล่าวว่า การขับเคลื่อนธุรกิจเน้นปรับตัวอย่างรวดเร็วให้สอดรับสถานการณ์โควิด พฤติกรรมผู้บริโภค และภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ทั้งนี้ ซิซซ์เล่อร์วางกลยุทธ์การทำตลาดที่ครอบคลุมทั้งการให้บริการภายในร้าน และเสริมแกร่งแพลตฟอร์มดีลิเวอรี และแกร็บแอนด์โก ภายใต้แนวคิด “New Sizzler New Normal”
“เวลานี้เราคงไม่สามารถคาดการณ์ธุรกิจทั้งปีได้ ต้องดูเป็นรายไตรมาส ซึ่งไตรมาสสองนี้ถือว่าหนักมากสำหรับทุกคน โอกาสในการลงทุนหายไป รวมทั้งการจับจ่ายใช้สอย แต่เชื่อว่าสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลายจะทำให้ครึ่งปีหลังนี้ดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ภายใต้วิกฤติ! พบว่าธุรกิจดีลิเวอรี หรือส่งตรงถึงบ้านของ “ซิซซ์เล่อร์” เติบโตเท่าตัว จากสัดส่วนราว 5% เพิ่มขึ้นเป็น 10% ซึ่งบริการ “ดีลิเวอรี” ยังจะเป็นเรือธงสำคัญของผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมทั้งซิซซ์เล่อร์ ในปีนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า ผลักดันธุรกิจเติบโตจากรูปแบบบริการเดิม เน้นนั่งรับประทานในร้าน หรือ ไดนิ่ง (Dinig) เป็นช่องทางสร้างยอดขายหลัก! แต่ด้วยข้อจำกัดของการเว้นระยะห่างทางสังคมแน่นอนว่าสร้างข้อจำกัดของปริมาณลูกค้าที่ลดลง 50%
“พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนใช้บริการดีลิเวอรีเป็นหลักในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด และสร้างความคุ้นชินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง ดีลิเวอรี เป็นการเข้ามาเปลี่ยนแลนด์สเคปของร้านอาหารไดนิ่ง หรือนั่งรับประทานในร้าน ซึ่ง ซิซซ์เล่อร์ เป็นแบรนด์ไดนิ่ง ต้องปรับตัวเช่นกัน”
ซิซซ์เลอร์ มองหาทางออกด้วยโมเดล ซิซซ์เลอร์ ทูโก (Sizzler To Go) ขยาย 7 สาขาใหม่ มาพร้อมเมนูใหม่ อาทิ แร็พไก่ย่างซอสศรีราชา แร็พไส้กรอกวีแกน แร็พกุ้งย่างมะม่วงน้ำปลาหวาน ซุปหอยลาย น้ำผลไม้สกัดเย็น
รวมทั้งแผนพัฒนาครัวกลาง หรือ ซิซซ์เล่อร์ คลาวด์ คิทเช่น (Sizzler Cloud Kitchen) ครัวกลางรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้รับอาหารรวดเร็วขึ้น สดร้อนเหมือนมีเชฟมาปรุงให้ที่บ้าน เสริมทัพบริการส่งตรงถึงบ้านให้มีเครือข่ายกว้างขวางรองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
ขณะที่ การรับประทานซิซซ์เล่อร์ที่ร้านทุกสาขาทั่วประเทศ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่สบายกว่าเดิม แต่เป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม อาทิ รับประทานสลัดบาร์ด้วยการตักสลัดแบบนิวนอร์มอล การสั่งอาหารแบบไร้สัมผัสด้วยเมนูออนไลน์ การเก็บเงินแบบไร้การสัมผัส ฯลฯ
นงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด กล่าวเสริมว่า หลังจากที่ ซิซซ์เล่อร์ได้เปิดตัวโมเดล ซิซซ์เล่อร์ ทู โก สาขาแรกที่ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง มีการตอบรับที่ดี จากกลุ่มผู้บริโภคคนรักสุขภาพ โดย 7 สาขาใหม่ แบ่งเป็น 4 สาขาในรูปแบบสแตนอะโลน คีออส ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศกช่องนนทรี สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 9 ดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และรูปแบบ “แกร็บแอนด์โก” ที่หน้าร้านซิซซ์เล่อร์ เซ็นทรัล เวสต์เกต เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และแฟชั่นไอส์แลนด์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยทั้ง 7 แห่งพร้อมให้บริการในไตรมาสที่ 2 นี้
ทั้งนี้ ซิซซ์เล่อร์ คลาวด์ คิทเช่น ได้นำคอนเซปต์ “Cloud” มาประยุกต์ใช้กับร้านอาหาร เกิดเป็น “Sizzler Cloud Kitchen” โดยการยกครัวของซิซซ์เล่อร์มาไว้ในร้านดีลิเวอรี่ของบริษัทในเครือไมเนอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าได้ทั้งในรูปแบบดีลิเวอรี่ และสั่งกลับบ้าน (Take Away)
"แพลตฟอร์ม ซิซซ์เล่อร์ คลาวด์ คิทเช่น จะช่วยให้ลูกค้าที่สั่งอาหารแบบดีลิเวอรี่ ได้รับอาหารรวดเร็วขึ้น สดร้อนเหมือนมีเชฟมาปรุงให้บ้าน ด้วยที่ตั้งสาขาใกล้บ้านในระยะ 3 กิโลเมตร"
อีกทั้งสามารถสั่งอาหารได้หลากหลายจาก 3 แบรนด์ ภายในออเดอร์เดียว ทั้ง ซิซซ์เล่อร์, เดอะ พิซซ่า คอมปะนี และ บอนชอน เพิ่มทางเลือกลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารที่บ้านไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านอาหารในศูนย์การค้า
ซิซซ์เล่อร์ มั่นใจว่า จะผลักดันยอดขายจากดีลิเวอรีมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 30% โดยคาดว่าจะเห็นผลไม่เกิน 2 ปีจากนี้