บลจ.กรุงศรี ผุดกองทุน KFGDIV รับกระแสเงินสดจากหุ้นปันผลชั้นนำทั่วโลก
บลจ.กรุงศรี ส่องเศรษฐกิจยังคงมีความผันผวนสูง ล่าสุดเพิ่มทางเลือกสร้างผลตอบแทนรวมจาก “เงินปันผลหุ้นห่านทองคำทั่วโลก” เสริมความแข็งแกร่งให้พอร์ตผ่านกองทุน KFGDIV เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 15 – 22 มิ.ย. 63
น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “ในภาวะปัจจุบันที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงมีความไม่แน่นอนสูง จำนวนหลักทรัพย์ที่สามารถเอาชนะดัชนีได้มีจำนวนลดลง กำไรสุทธิของบริษัทมีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจขาลงเพิ่มมากขึ้น ธุรกิจบางประเภทยังต้องเผชิญกับรายได้ที่ลดลงอย่างมาก ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวอ่อนแอลงเป็นตัวบ่งชี้ว่าตลาดยังคงมีความเปราะบาง ผู้ลงทุนจึงควรกระจายการลงทุนไปยังกลยุทธ์เชิงรับเพื่อปกป้องพอร์ตการลงทุนพร้อมเสริมความแข็งแกร่งท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาด”
“หุ้นปันผลหรือที่เรียกกันว่าหุ้นห่านทองคำ เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับการสร้างกระแสเงินสดและการเติบโต มีประวัติการสร้างผลตอบแทนที่แข็งแกร่งในระยะยาว มีความผันผวนต่ำ และสามารถช่วยลดผลกระทบจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2544 หุ้นปันผลสามารถเอาชนะดัชนี S&P ได้อย่างต่อเนื่อง และมีผลตอบแทนรวมสูงกว่าดัชนีกว่า 2 เท่า” (ที่มา :Fidelity International ณ มิ.ย. 62 /ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
“กองทุนหลักใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ไม่ยึดติดกับดัชนี เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่แตกต่าง เน้นสร้างผลตอบแทนรวมจากเงินปันผลนอกเหนือจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น โดยการลงทุนในหุ้นปันผลชั้นนำของโลก และให้ความสำคัญกับการรักษาเงินลงทุน และจำกัดการขาดทุนตามแนวทาง Defensive จะเห็นว่าพอร์ตการลงทุนมีการกระจายการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งในแง่แหล่งที่ตั้งครอบคลุมทั้ง สหราชอาณาจักร ยุโรป อเมริกา ตลาดเกิดใหม่ เป็นต้น และมีการกระจายการลงทุนตามแหล่งรายได้ จึงสามารถกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี”
“นอกจากนี้ กองทุนหลักยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น เทียบกับตลาดหุ้นทั่วไปและคู่แข่งในอุตสาหกรรม และสามารถสร้างผลการดำเนินย้อนหลังได้ดีกว่า ดัชนี MSCI AC World Index ทั้งในระยะ 3 ปี หรือ 5 ปี รวมถึงตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2555 ผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 87.5% ขณะที่ดัชนี MSCI AC World Index อยู่ที่ 65.8%” (*ที่มา : Fidelity ณ 31 มี.ค. 63 การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
“บลจ.กรุงศรีเชื่อว่า กองทุน KFGDIV จะมีส่วนช่วยให้ผลตอบแทนรวมของพอร์ตการลงทุนมีความมั่นคงมากขึ้น รับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจได้ดีขึ้น โดยจะมี 2 นโยบายให้เลือกลงทุน ทั้ง KFGDIV-A ซึ่งไม่มีการจ่ายปันผล และ KFGDIV-D ที่มีนโยบายจ่ายปันผลด้วย” น.ส.ศิริพร กล่าว