'บีดีเอ็มเอส' ผนึก 'ผิงอัน' เจาะตลาดจีนดึงรักษาไทย
บีดีเอ็มเอส ผนึก ผิงอัน ยักษ์ประกันภัยแดนมังกร ดึงกลุ่มชาวจีนมารักษาในไทย หลังไทยควบคุมสถานการณ์โควิดได้ดี ตั้งเป้าดันลูกค้าจีนติดท็อปทรีลูกค้าต่างชาติ คาดรายได้ปีแรก 1-2 พันล้านบาทหลังจีนเปิดประเทศโควิดคลี่คลาย
แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามารักษาในประเทศไทย ยอดคนไข้เป็น ‘ศูนย์’ ทว่ามีการประเมินกันว่าหลังโควิด-19 คลี่คลาย ประเทศไทยอาจกลายเป็น ‘เมดิคัล ทัวริสซึม ฮับ’ ที่ต่างชาติให้ความสนใจมากขึ้นโดยเฉพาะชาวจีน จากเดิมที่นิยมเดินทางมาเที่ยว หันมาใช้บริการการรักษาในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากสาธารณสุขไทยสามารถควบคุมสถานการณ์โควิดได้ดี
ล่าสุด กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนแบบครบวงจรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย ถือหุ้นใหญ่โดยนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ร่วมกับ ผิงอัน เฮลธ์ บริษัทในเครือผิงอัน อินชัวรันส์ เป็นบริษัทประกันรายใหญ่ในประเทศจีน ที่มีลูกค้าประกันชีวิต 63 ล้านคนลูกค้าประกันรถยนต์ 50 ล้านคน ลูกค้าธนาคาร 69 ล้านคน ลูกค้าบัตรเครดิต 57 ล้านคน ลูกค้าหลักทรัพย์และกองทุน 47 ล้านคนอื่นๆ 50 ล้านคน เพื่อดึงผู้ป่วยจีนมารักษาพยาบาลในไทย
นางนฤมล น้อยอ่ำ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS กล่าวถึงความร่วมมือกับ ผิงอัน เฮลธ์ ( PING AN HEALTH) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ในประเทศจีน ที่มีจำนวนฐานลูกค้า 516 ล้านกรมธรรม์ หากคนจีน7 คน 1ใน7คนจะเป็นลูกค้าของผิงอัน เฮลธ์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของผิงอัน กลุ่มธุรกิจการเงินและประกันที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยฟอร์จูน ถือเป็นครั้งแรกของบีดีเอ็มเอส ที่เข้าไปทำตลาดในประเทศจีนอย่างจริงจัง โดยความร่วมมือดังกล่าว ได้ดำเนินการมาปีกว่า ก่อนหน้าที่เกิดสถานการณ์โควิด -19
*รุกตลาดจีนติดท็อปทรี
เนื่องจากบริษัทมองเห็นโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าต่างประเทศไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพทั้งแง่ปริมาณคนไข้ และกำลังซื้อ จากเดิมบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าคนไทย 70% กลุ่มลูกค้าต่างชาติ 30% โดย 5 อันดับแรกจะเป็น กลุ่มลูกค้าจากตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น เมียนมาร์ จีน และกลุ่มสแกนดิเนเวีย คาดว่า หลังจากความร่วมมือดังกล่าว สัดส่วนลูกค้าจีนจะเพิ่มขึ้นอันดับ 1 ใน 3 จากปัจจุบันที่มีส่วน 1-2 % ที่เป็นลูกค้าคนจีน โดยอาศัยฐานลูกค้าของผิงอัน เฮลธ์
โดยจะนำเสนอแนวทางการรักษาที่หลากหลายครอบคลุมตามความต้องการ รวมถึงบริการสุขภาพในด้านต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าผิงอัน เฮลธ์ อาทิ โปรแกรมการตรวจร่างกายพื้นฐาน โปรแกรมการตรวจและรักษาโรคเฉพาะทางทั้งระดับทั่วไปและที่มีความซับซ้อนโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรมตรวจคัดกรองและการรักษาโรคมะเร็ง การรักษาด้านศัลยกรรม กระดูก การผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกและการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า การรักษาโรคหัวใจและระบบประสาท เป็นต้น
*ชูแข็งแกร่งเครือข่ายรพ.
ปัจจุบันเครือข่ายของบีดีเอ็มเอส ประกอบด้วยโรงพยาบาล 49 แห่ง มีจำนวน 6,000 เตียงใน 6 กลุ่มโรงพยาบาล ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาล BNH และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพยาบาลกว่า 22,000 คน ที่พร้อมให้บริการลูกค้าชาวจีน ในการให้คำปรึกษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในไทย ที่พร้อมจะให้ข้อมูลก่อนเข้ารับการรักษา การให้บริการด้านวีซ่า ตลอดจนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือการเดินทางจากสนามบินเพื่อเข้ารับการรักษา และบริการดูแลผู้ป่วยระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยห้องพักส่วนตัวเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ประกันสุขภาพของผิงอัน เฮลธ์ ซึ่งสามารถใช้บริการทุกโรงพยาบาลในเครือ บีดีเอ็มเอส
“ขณะนี้โรงพยาบาลในเครือมีจำนวนเตียง 6,000 เตียงใช้ไปแล้ว4,000 เตียงแต่สามารถเพิ่มจำนวนเตียงได้อีก 8,000 เตียงโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม ดังนั้นจึงยังไม่มีแผนที่ลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ คาดว่าหลังจากโควิดจะมีลูกค้าคนจีนที่เข้ามาเข้ามาใช้บริการจำนวน 1,000-4,000 คน ยอดขาย1,000-2,000 ล้านบาทในปีแรกหลังจากโควิดคลี่คลาย ถือว่า วิกฤติโควิดเป็นโอกาส ที่ทำให้คนจีนรู้จักประเทศไทยในมุมการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้นจากเดิมที่เดินมาเมืองไทยเพื่อท่องเที่ยวเป็นหลัก”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในเครือบีดีเอ็มเอส ได้ร่วมมือกับ ผิงอัน ในการใช้ Ping An Good Doctor เป็นแอพพลิเคชันที่นำเทคโนโลยี AI มาช่วยให้คุณหมอวินิจฉัยอาการคนไข้เบื้องต้นผ่านทางหน้าจอสมาร์ทโฟน
*เข้มเดินทางเข้าตรวจในไทย
นางนฤมล กล่าวว่า มาตรการปลดล็อกของภาครัฐจะมีส่วนช่วยผลักดันธุรกิจและเศรษฐกิจ รวมทั้งทั้งธุรกิจโรงพยาบาลกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ เพราะเอื้อต่อการเดินทางของชาวต่างชาติ จากการเปิดให้สายการบินดำเนินการได้ตามปกติ คาดว่าจะเห็นผลในช่วงไตรมาส4ปีนี้จากปัจจุบันที่ยอดผู้ป่วยจากต่างชาติเป็นศูนย์ เพราะเดินทางมาไม่ได้ ยกเว้นกลุ่มต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ส่วนการเดินทางเข้ามาของผู้ป่วยต่างชาติต้องขึ้นอยู่กับประเทศนั้นๆด้วยว่าจะเปิดประเทศหรือไม่ และต้องผ่านมาตรการตรวจสอบเข้มข้นก่อนที่เข้ามารักษาในประเทศไทย โดยทันทีที่เข้ามาถึงจะต้องเข้ามาสู่โรงพยาบาลทันที จึงไม่จำเป็นต้องกักตัวเหมือนกับนักท่องเที่ยว แตกต่างจากแนวทางการดำเนินการทราเวล บับเบิล
*“ผิงอัน”หนุนแผนฯสุขภาพจีน
ด้านนายหยาง เจิ้ง ประธานบริษัท ผิงอัน เฮลธ์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ บีดีเอ็มเอส เพื่อมอบบริการสุขภาพแก่ผู้ประกันตนในประเทศจีน ถือเป็นการยกระดับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนด้วยระบบบริการทางการแพทย์มาตรฐานระดับโลกอีกขั้นของจีนด้วยการขยายเครือข่ายทางการแพทย์ และการพัฒนาขีดความสามารถในการให้บริการที่เหนือกว่า
ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของบริการใหม่ ที่เกิดจากการหารือร่วมกันระหว่างบริษัทประกันและธุรกิจบริการสุขภาพทางการแพทย์ เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ครอบคลุมและระบบบริการที่ สามารถตอบโจทย์ให้แก่ผู้ประกันตนชาวจีน เพื่อรองรับกับแผนแม่บทด้านสุขภาพของจีนบรรลุยังเป้าหมายที่กำหนดไว้ในอีก10ปีข้างหน้าด้วยการส่งเสริมให้ชาวจีน 100 ล้านคนมีสุขภาพที่ดี ที่พร้อมส่งมอบบริการด้านประกันสุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีชั้นนำของจีนจากประเทศไทย ที่ได้เชื่อว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางการแพทย์ในระดับสากล