กพท.ออกประกาศเข้มระเบียบเดินทางเข้าไทย หลังปลดล็อกน่านฟ้า
กพท.ออกประกาศเปิดน่านฟ้าไทยฉบับที่ 2 เข้มขั้นตอนเดินทางตามข้อกำหนด ศบค.หลังปลดล็อก 11 กลุ่มเดินทางเข้าประเทศ มีผล 3 ก.ค.นี้
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) วันนี้ (2 ก.ค.2563) โดยระบุว่า ตามที่ได้ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้ อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2563 เพื่อกำหนดเงื่อนไขใน อนุญาตทำการบินของอากาศยานที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นั้น
เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 12) ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 7/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 6) สั่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาต ให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2563
ข้อ 2 ห้ามอากาศยานขนส่งบุคคลทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทย เว้นแต่เป็นกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
- อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร (State or Military aircraft)
- อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency landing)
- อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค (Technical landing) โดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
- อากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด – 19 (Humanitarian aid, medical and relief flights)
- อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับ ภูมิลำเนา (Repatriation flights)
- อากาศยานขนส่งสินค้า (Cargo flights)
- อากาศยานที่ขนส่งบุคคลที่สามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามที่กำหนด ในข้อ 3
ข้อ 3 การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้ ทางอากาศยาน สามารถกระทำได้ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลาและหลักเกณฑ์ของผู้มีอำนาจ ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ และกฎหมาย ว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อการป้องกันการระบาดของโรคและจัดระเบียบ จำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัด กรองและการจัดสถานที่ไว้แยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต
- ผู้มีสัญชาติไทย
- ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนด เงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
- บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาลหรือ หน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นตามที่ กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
- ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็ว
- ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามา ตามภารกิจและมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
- ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
- ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรหรือได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ ในราชอาณาจักร
- ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานใน ราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสหรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
- ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาในประเทศไทยที่ ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว ยกเว้นนักเรียนหรือนักศึกษาของ โรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถานศึกษาอื่นของเอกชนซึ่งมีสถานะคล้ายกัน
- ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลใน ประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด – 19
- ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลง พิเศษ (special arrangement) กับต่างประเทศ
ข้อ 4 บุคคลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อ 3 จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน โรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 แนบท้ายคำสั่งศูนย์ บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 7/2563 สั่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป
นายจุฬา กล่าวด้วยว่า สาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในประกาศฉบับนี้คือ มีการอ้างถึงวิธีการปฏิบัติของผู้เดินทางตั้งแต่เริ่มเตรียมตัว ตั้งแต่ต้นทางถึงเมื่อเข้ามาในไทย จะต้องปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในแนวปฏิบัติ ของ ศบค.เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างเข้มงวด