SCC - ถือ

SCC - ถือ

ธุรกิจเคมีที่แข็งแกร่งช่วยบรรเทาผลกระทบ Covid

คาดว่ากำไรที่แข็งแกร่งใน 2Q จะอยู่ที่ราว Bt9.5bn +36% qoq และ +35% yoy โดยมีปัจจัยหนุนจาก spreads ที่สูงขึ้นและปริมาณขายที่สูงขึ้นจากธุรกิจเคมี โดยยอดขายธุรกิจเคมีและซีเมนต์จะลดลงใน 3Q การปิดโรงงาน MOC จะกดดันกำไรใน 4Q คงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ที่ Bt350/sh เทียบเท่า 14.3x FY20F PE และ 3.5% dividend yield

 

อัตรากำไรเคมีภัณฑ์และปริมาณขายที่ดีขึ้นใน 2Q

เราคาดว่า SCC จะสามารถทำได้ดีกว่าที่ตลาดคาดใน 2Q ด้วยกำไรสุทธิที่ Bt9.5bn +36% qoq และ +35% yoy PE และ PP spreads จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ US$486/t และ US$597/t จาก US$399 และUS$546 ใน 1Q เราคาดว่าปริมาณขาย PE และ PP จะเติบโต 12% qoq สู่ระดับ 470k ตันใน 2Q โดยมีปัจจัยหนุนจากสินค้าคงคลังจาก 1Q ราคา นาฟตา ที่ลดลง (-US$212/t qoq) จะทำให้เกิด stock loss ราว Bt620m เทียบกับใน 1Q ที่ Bt1.0bn ความต้องการปูนซีเมนต์นั้นมีทั้งส่วนที่ดีในไทยจากการไม่มีวันหยุดสงกรานต์ แต่อ่อนแอในลาว พม่าและอินโดนิเซีย ความต้องการซีเมนต์ภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นราว +1% ถึง 3% yoy ใน 2Q โดยมีปัจจัยหนุนจากภาครัฐบาล (40% ของความต้องการ) เราคาดว่าราคาขายจะคงที่ qoq ที่ Bt1,750-1,800/t ธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากผลกระทบของ Covid-19 จากการที่ 68% ของการขายนั้นอยู่ในภาคการบริโภค เราคาดว่าธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะสร้างกำไรอยู่ที่ราว Bt1.7bn ให้กับกลุ่มหรือ -4% qoq จากการที่ผู้บริโภคยังลังเลที่จะซื้อสินค้าคงทน ผลประกอบการจะประกาศในวันที่ 29 กรกฎาคม

 

คาดว่าปริมาณขายเคมีภัณฑ์และซีเมนต์จะอ่อนตัวลงใน 3Q; การปิดโรงงาน MOC จะเป็นปัจจัยกดดันกำไรใน 4Q

SCC จะปิดโรงงาน MOC (กำลังการผลิต 900kt สำหรับเอทาลีน, 800kt สำหรับโพลพิลิน) เป็นเวลา 45 วันเพื่อการซ่อมบำรุงใน 4Q บริษัทจะจัดสรรสินค้าคงคลังใน 3Q จะเพื่อที่ขายใน 4Q ดังนั้นเราคาดว่าปริมาณขายเคมีภัณฑ์ใน 3Q จะลดลงและจะลดลงต่อใน 4Q ความต้องการซีเมนต์จะอ่อนตัวลงใน 3Q เนื่องจากฤดูฝนและวัดหยุดที่เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยวันสงกรานต์ ส่วนกำลังการผลิตใหม่ HDPE และ PP จำนวน 3.7m ตันและ 6.2m ตันจะเข้ามาในปี 2020 จากกำลังการผลิตทั่วโลกราว 48.2m ตันและ 80m ตันตามลำดับ หรือ 7% และ 7.5% เทียบกับอัตราการเติบโตของความต้องการ 4% ต่อปี เราคาดว่ากำลังการผลิตใหม่จะทำให้ spreads ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ยาก

  

คงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ที่ Bt350/sh; SCGP จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ใน 4Q20 

SCC นั้นรอให้ตลาดทุนนั้นกลับไปสู่ภาวะปกติและจะดำเนินการ IPO SCGP ต่อ โดย SCGP จะให้สิทธิ pre-emptive rights กับผู้ถือหุ้น SCC ในการจองหุ้น IPO ซึ่งรายละเอียดจะประกาศอีกครั้งในช่วงที่ช่วงเวลาการจดทะเบียนนั้นยืนยันแล้ว เราไม่คิดว่าการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ SCGP จะมีผลต่องบกำไรขาดทุนของ SCC แต่จะได้รับรู้มูลค่าตลาดและได้ขยายการเติบโตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เรายังคงระมัดระวังในวัฎจักรธุรกิจเคมีภัณฑ์เนื่องจากกำลังการผลิตใหม่กำลังจะเริ่มดำเนินงาน ราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF น้นอยู่ที่ Bt350/sh เทียบเท่า 14.3x FY20F PE และ 3.5% dividend yield