ไทยผู้นำอาหารโลก โจทย์ท้าทายรัฐบาล
การแก้ปัญหาภาคเกษตร นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายของรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรมักถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่รัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือ ขณะเดียวกันไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับ 11 ของโลก สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล
ไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับ 11 ของโลกในปี 2562 มีมูลค่าการส่งออก 33,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีความเป็นได้ที่การส่งออกอาหารของไทยขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลก โดยการส่งออกหลายประเทศชะลอตัว แต่การส่งออกสินค้าอาหารของไทยหลายรายการมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นโอกาสดีที่หากประเทศต่างๆ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้สินค้าไทยกลับเข้าสู่ตลาดได้ทันที ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูตลาดส่งออกของไทยให้มีมูลค่าทางการค้าที่เพิ่มขึ้น
การส่งออกสินค้าอาหารไทยในช่วง 5 เดือน แรกของปี 2563 มีสินค้าที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น คือ ผัก ผลไม้สด แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป การส่งออกขยายตัวได้ดีในตลาดเอเชียและสหรัฐอเมริกา ในขณะที่สินค้ากลุ่มปลาทูน่ากระป๋อง ขยายตัวได้ดีในตลาดสหรัฐ ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ส่วนสินค้าไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ขยายตัวได้ดีในตลาดจีนและญี่ปุ่น โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีความต้องการสินค้าอาหารของไทยเพิ่มขึ้นมาก และมีแนวโน้มที่การส่งออกไปจีนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะขยายตัวมากขึ้นและเป็นตลาดสำคัญของไทยในปี 2563
ภาคการเกษตรถือเป็นภาคส่วนสำคัญของประเทศที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาและยกระดับการผลิต เพื่อให้เกษตรกรพ้นจากความยากจน แต่การแก้ปัญหาดังกล่าวมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลา รวมถึงต้องใช้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงของการตลาดทำให้การวางนโยบายยกระดับภาคการเกษตรจะต้องมองในมุมใหม่ เพื่อนำเทคโนโลยี นวัตกรรมและข้อมูลบิ๊กดาต้ามาใช้ประโยชน์การผลิตภาคการเกษตรเพิ่มมากขึ้น
การตลาดนำการผลิตที่เป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการยกระดับภาคการเกษตร ซึ่งรัฐบาลควรทุ่มเทกับการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมามีหลายรัฐบาลต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการพยุงราคาสินค้าเกษตรในหลายรูปแบบทั้งการจำนำสินค้าเกษตร การประกันราคาสินค้าเกษตร แต่ถ้ารัฐบาลสามารถสร้างเกษตรสมัยใหม่ที่สามารถควบคุมต้นทุนการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง จะสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่ภาคการเกษตรเพิ่มมากขึ้นด้วย
การพ้นความยากจนถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไข เพราะเกษตรกรมักถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ แต่ถ้าผลักดันให้เกิดสมาร์ทฟาร์มเมอร์ที่มีแนวทางผลิตสินค้าเกษตรที่ตลาดโลกต้องการจะทำให้สินค้าอาหารของไทยมีศักยภาพแข่งขันกับตลาดโลก ซึ่งจะทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารของไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น และไปแข่งขันกับผู้ผลิตสินค้าอาหารที่มีศักยภาพ การแก้ปัญหาภาคเกษตรจึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของรัฐบาล