ปตท.เบรกนำเข้า LPG โควิดลดความต้องการใช้ครึ่งปีหลัง

ปตท.เบรกนำเข้า LPG โควิดลดความต้องการใช้ครึ่งปีหลัง

กรมธุรกิจพลังงาน เผย ปตท.เบรกนำเข้าแอลพีจีครึ่งปีหลัง ชี้โควิดกดความต้องการใช้ลดลง ด้านสยามแก๊ซ หยุดนำเข้าตั้งแต่กลางปีที่แล้ว

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดส่งผลให้ความต้องการใช้แอลพีจีลดลง โดยบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำเข้ารายเดียวได้หยุดส่งแผนนำเข้าช่วงครึ่งหลังปีนี้ และช่วง ม.ค.-พ.ค.63 ปตท.เริ่มหยุดนำเข้าแล้ว มีเพียงเดือน ก.ค.2563 ที่แจ้งนำเข้า ปริมาณ 9,000 ตัน เพื่อนำมาใช้ในประเทศเท่านั้น

ขณะที่ บริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) ยังมีการแจ้งแผนนำเข้าเพื่อส่งออกทุกเดือนในปริมาณราว 3,000 ตัน ส่วนบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) ได้หยุดการนำเข้าไปตั้งแต่กลางปี 2562  และหันไปซื้อก๊าซจาก ปตท.แทน เนื่องจากธุรกิจแอลพีจีเปลี่ยนไป

ทั้งนี้ กรมฯ คาดการณ์ว่าการใช้แอลพีจีในปี 2563 เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 14.99 ล้านกิโลกรัมต่อวัน จากครึ่งปีแรกการใช้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.0 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 16% โดยปริมาณการใช้ภาคขนส่งลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 2.0 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง 30.6% รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมี ภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน

นอกจากนี้ กรมฯ ได้จัดทำร่างแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง ปี2561-2580 (Oil Plan 2018) เสร็จแล้ว และได้ฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ พร้อมปรับปรุงข้อคิดเห็นเพื่อเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเพื่ออนุมัติ ซึ่งต้องรอการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้เรียบร้อย จึงจะส่งแผนให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณา

ทั้งนี้ การพยากรณ์ความต้องการใช้น้ำมันในภาคขนส่งหลังมีมาตรการอนุรักษ์พลังงาน ในร่างแผนน้ำมันพบว่า ปลายปี 2580 การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 39.83 ล้านลิตรต่อวัน จากปี 2562 อยู่ที่ 32.30 ล้านลิตรต่อวัน เติบโตน้อยกว่ากลุ่มดีเซล ที่คาดว่าปลายปี 2580 การใช้อยู่ที่ 90.56 ล้านลิตรต่อวัน จากปี 2562 อยู่ที่ 67.41 ล้านลิตรต่อวัน เพราะได้ความต้องการใช้ยานต์สมัยใหม่และยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เข้ามาแทนรถยนต์เบนซินมากขึ้น

ขณะที่การใช้แอลพีจีภาคขนส่ง ปี2580 จะอยู่ที่ 0.28 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากปี2562 อยู่ที่ 2.80 ล้านกิโลกรัมต่อวัน และการใช้เอ็นจีวี ปี 2580 จะอยู่ที่ 1.74 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงจากปี2562 อยู่ที่ 5.39 ล้านกิโลกรัมต่อวัน

ส่วนความต้องการใช้เอทานอล และไบโอดีเซล จะเริ่มคงที่ตั้งแต่ปี 2565-2580 โดยเอทานอล จะมีการใช้อยู่ที่ 7.80 ล้านลิตรต่อวัน จากปี 2561 อยู่ที่ 5.97 ล้านลิตรต่อวัน และไบโอดีเซล อยู่ที่ 8.27 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งแผนขยายกำลังการผลิตอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ตลาดน้ำมัน