ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

คงไม่มีใครปฎิเสธ ว่าการทาน “ผักและผลไม้” ย่อมเกิดประโยชน์ต่อร่างกาย  แต่รู้หรือไม่? หากรับประทานผิดวิธีอาจจะเกิดโทษได้เช่นเดียวกัน

KEY

POINTS

  • ผักทั้ง 12 ชนิดนี้ หากนำมารับประทานแบบดิบ ๆ ในปริมาณมาก ย่อมส่งผลทำให้เกิดโทษต่อร่างกาย ซึ่งผักการรับประทานผักดิบบางชนิด อาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • สารในผักดิบที่กระทบต่อสุขภาพมีมากมาย ทั้ง ไซยาไนด์ สารฟอกขาว ออกซาเลต แลคติน หรือ แม้แต่น้ำตาลบางชนิดในผัก ล้วนเป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งสิ้น
  • การล้างผักให้สะอาด ปลอดจากสารเคมี มีความจำเป็นอย่างมากก่อนจะนำมาปรุงอาหาร เพราะหากต้องการให้สุขภาพดีควรรับประทานผัก ผลไม้ที่ถูกสุขลักษณะ ประมาณ 400 กรัมต่อวัน 

คงไม่มีใครปฎิเสธ ว่าการทาน “ผักและผลไม้” ย่อมเกิดประโยชน์ต่อร่างกาย  แต่รู้หรือไม่? หากรับประทานผิดวิธีอาจจะเกิดโทษได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการรับประทานอาหารแบบดิบๆ ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์  หากกินดิบๆ และในปริมาณมากๆ อาจจะได้รับโทษมาแทน

ผักบางชนิดไม่สามารถกินดิบได้ เพราะอาจมีสารปนเปื้อนหรือเชื้อแบคทีเรีย ที่ถ้าเรากินเข้าไปก็อาจเป็นอันตรายได้ มาดูกันว่ามีผักอะไรบ้างที่ไม่ควรกินดิบ และกินอย่างไรให้ปลอดภัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

‘ผักผลไม้ฤดูร้อน’ เพิ่มวิตามิน 'กินคลายร้อน' มีอะไรบ้าง

เลือกทาน Plant-based foods อย่างไร? ให้ดีต่อหัวใจ ดีต่อสุขภาพ

รู้จักผัก 12 ชนิด กินดิบๆ อาจทำให้เกิดโทษ

ผัก 12 ชนิดเหล่านี้ ที่หากกินดิบ ๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดโทษ และทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตแบบที่คุณอาจจะไม่รู้ตัว

  • กะหล่ำปลี 

ถึงแม้ว่าผักอย่าง กะหล่ำปลี จะเป็นผักที่มีวิตามินซีสูงก็ตาม แต่เราจะได้รับวิตามินซีจากกะหล่ำปลีอย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อเรานำกะหล่ำปลีมาปรุงสุกแล้วค่อยรับประทาน เนื่องจากในกะหล่ำปลียังคงมี สารออกซาเลต ซึ่งเราจะได้รับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย เมื่อมีการรับประทานกะหล่ำปลีดิบ ๆ ในปริมาณมาก ซึ่งถ้าหากมีสารออกซาเลตเข้าไปที่กรวยไตมาก ๆ อาจจะทำให้เกิดโรคนิ่วขึ้นได้

นอกจากนี้กะหล่ำปลีดิบ ยังคงมีสารกอยโตรเจน ซึ่งเป็นสารที่คอยยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมโทรอยด์ในร่างกายของเรา ซึ่งจะส่งผลทำให้ร่างกายของเรานั้น ดึงไอโอดีนจากเลือด เพื่อนำไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ จนทำให้เกิดโรคคอหวยพอกขึ้นได้ แต่สำหรับสารนี้สามารถสลายตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อโดนความร้อน เพราะฉะนั้น การบริโภคกะหล่ำปลีแบบสุก ๆ ถือได้ว่าปลอดภัยอย่างมากที่สุด

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • ดอกกะหล่ำ 

ดอกกะหล่ำถือได้ว่าเป็นพืชชนิดหัวอีกชนิดหนึ่ง ที่เราไม่สามารถนำมารับประทานแบบดิบ ๆ ได้ เพราะดอกกะหล่ำยังคงมีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลชนิดนี้ได้ ส่งผลทำให้เกิดอาการท้องอืด และรู้สึกแน่นท้อง ซึ่งถ้าหากคุณรับประทานดอกกะหล่ำปรุงสุก คุณจะสามารถมั่นใจได้ ว่าคุณจะไม่พบเจอโทษจากดอกกะหล่ำ

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

ผักบางชนิด ไม่ควรกินดิบ 

  • บรอกโคลี 

เนื่องจากบรอกโคลี เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลี จึงมีน้ำตาลที่ส่งโทษทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน หากมีการนำมารับประทานแบบดิบ ๆ อีกทั้งในบรอกโคลี ยังคงมีฮอร์โมนบางชนิด ที่กระตุ้นทำให้เกิดโรคไทรอยด์ได้อีกเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ผักอย่างบรอกโคลี จึงเป็นผักอีกหนึ่งชนิด ที่เราไม่ควรนำมารับประทานแบบดิบ ๆ ในปริมาณมากนั่นเอง

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • ถั่วฝักยาว 

การรับประทานถั่วฝักยาวแบบดิบ ๆ ในปริมาณมาก ค้นพบว่า ถั่วฝักยาว จะมีปริมาณไกลโคโปรตีน พร้อมทั้งเลคตินสูง สารชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกิดอาการท้องเสียได้ในระยะเวลา 3 ชั่วโมงได้นั่นเอง

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • ถั่วงอก 

ถือได้ว่าเป็นผักยอดนิยม ที่ถูกนำมารับประทานสด ๆ อย่างเป็นประจำ ซึ่งเสี่ยงต่อการได้รับโทษจากสารโซเดียมซัลไฟต์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สารฟอกขาว ซึ่งถ้าหากผู้รับประทานถั่วงอกดิบ ๆ ในปริมาณมาก เป็นผู้ที่แพ้สารชนิดนี้ด้วยแล้ว ย่อมทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ มีลักษณะหายใจขัด ความดันโลหิตต่ำ และมีอาการปวดท้องร่วมด้วย ซึ่งสารฟอกขาวนี้จะสลายและถูกทำลายได้ เมื่อมีการนำไปปรุงสุกแล้วเท่านั้น

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • หน่อไม้ 

ในหน่อไม้สดจะมีสารไซยาไนด์ ซึ่งจะเป็นพิษต่อร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับสารนี้ในปริมาณมาก สารนี้จะเข้าไปจับกับฮีโมโกลบิน ส่งผลทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจน จนทำให้หมดสติ และอาจจะเสียชีวิตได้ในที่สุด เพราะฉะนั้น ถ้าหากใครอยากจะรับประทานหน่อไม้ ควรปรุงสุกด้วยความร้อนเสียก่อน ถึงจะปลอดภัย

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • มันสำปะหลัง 

ทางสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้ประกาศแจ้งเตือนว่า หากมีการรับประทานมันสำปะหลังดิบ โดยเฉพาะในส่วนหัว รากและใบ อาจจะมีพิษส่งผลทำให้ถึงตายได้ ซึ่งพิษในมันสำปะหลังจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบหัวใจ ในรายที่ได้รับพิษน้อยที่สุด จะเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ มีอาการปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ และอุจจาระร่วง

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • ผักโขม 

เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก แต่ถ้าหากนำมารับประทานแบบดิบ ๆ จะส่งผลทำให้เกิดโทษต่อร่างกายอย่างมากเช่นกัน เพราะภายในผักโขมดิบ ๆ จะมีกรดออกซาลิก ซึ่งจะส่งผลทำให้ลำไส้ของเราระคายเคือง และยังเป็นตัวขัดขวาง ที่จะทำให้ไม่ร่างกายของเรานั้น ได้ดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม ซึ่งในภายหลังจะส่งผลทำให้เราเป็นโรคนิ่ว แต่ถ้าหากเรานำผักโขมไปปรุงสุกเสียก่อน โทษต่าง ๆ เหล่านี้จะหายไปในทันที 

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • แครอท

ถึงแม้ใน แครอท จะมีสารเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ที่ช่วยในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ยับยั้งและต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี แต่การกินแครอทดิบจะทำให้การดูดซึมสารเบต้าแคโรทีน ที่เป็นตัวช่วยต้านอนุมูลอิสระได้น้อยลง จึงควรนำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน จะได้ประโยชน์มากกว่า และแครอทเป็นพืชที่มีประโยชน์สูงแต่หากเรากินในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้ผิวมีสีเหลืองขึ้น ฟันเสื่อม หรือฟันผุ

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • มันฝรั่ง

มันฝรั่ง เป็นพืชที่ต้องนำมาผ่านความร้อน และปรุงสุกก่อนรับประทานเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการต้ม ผัด อบ หรือทอด ไม่ควรนำมากินแบบดิบเด็ดขาด เพราะในหัวมันฝรั่งดิบจะมีสารโซลานีน (Solanine) มีอยู่มากในส่วนหน่อที่งอกออกมากจากหัว และสารพิษไกลโคแอลคาลอยด์ (Glycoalkaloids) ซึ่งเป็นสารที่พืชสร้างมาเพื่อปกป้องตัวเองจากแมลงศัตรูพืช อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น ใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจล้มเหลว และสุดท้ายอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยการนำมันฝรั่งไปทำให้สุกด้วยความร้อนจัด 170 องศาเซลเซียส จะช่วยลดปริมาณสารพิษเหล่านั้นลงได้

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • มันเทศ

มันเทศ หรือมันหวานสีต่างๆ อีกหนึ่งพืชที่ต้องนำมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน เพราะมีปริมาณสารไซยาไนด์ (Cyanide) อยู่ ถึงแม่ปริมาณจะไม่มากเท่ามันสำปะหลัง และในหัวมันเทศยังมีสารออกซาเลต (Oxalates) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียม และแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด และอาจเพิ่มความเสี่ยงเกิดนิ่วในไตได้ ก่อนนำมันเทศมาปรุงอาหาร ควรล้างทำความสะอาดเพื่อกำจัดสารพิษหรือสิ่งตกค้างก่อนนำไปปรุงอาหาร

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

  • เห็ด ชนิดต่างๆ

เห็ดทุกชนิด ควรจะนำมาลวก ต้ม หรือทำให้สุกก่อนทาน เพราะในเห็ดจะมีผนังเซลล์ที่ย่อยยากอยู่ ซึ่งการนำมาปรุงให้สุกจะช่วยไปทำลายผนังเซลล์ที่ย่อยยากนั้นได้ บางคนทานเห็ดดิบแล้วอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด และในเห็ดอาจมีสารพิษปนเปื้อนอยู่มาก จึงคารนำมาล้างให้สะอาด และปรุงสุกก่อนทานจะดีที่สุด

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

ผักทั้ง 12 ชนิดนี้ หากนำมารับประทานแบบดิบ ๆ ในปริมาณมาก ย่อมส่งผลทำให้เกิดโทษต่อร่างกาย ซึ่งผักการรับประทานผักดิบบางชนิด อาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้น การรับประทานผักที่ถูกต้อง พร้อมทั้งได้รับประโยชน์จากผักทุกชนิด เราควรนำผักทุกชนิดมาปรุงสุกเสียก่อน เพื่อที่จะสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย ได้ประโยชน์อย่างครบครัน โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย

สารในผักดิบที่กระทบต่อสุขภาพ

  • ออกซาเลต

หากได้รับไปในปริมาณมาหรือระยะเวลานาน จะเข้าไปสะสมอยู่บริเวณกรวยไต อาจทำให้เป็นโรคนิ่วในไตได้

  • กอยโตรเจน

สารนี้จะไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายดึงไอโอดีนจากโลหิตได้น้อยกว่าปกติ เป็นสาเหตุโรคคอพอก

  • ไกลโคโปรตีนและแลคติน

จะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียหลังบริโภคผักดิบในระยะเวลา 3 ชั่วโมง

  • โซเดียมซัลไฟต์ หรือสารฟอกขาว

โดยเฉพาะการบริโภคผักสีขาวแบบดิบ ทำให้เกิดอาการหายใจติดขัด ความดันโลหิตต่ำ และปวดท้อง

  • ไซยาไนด์

สารนี้จะเข้าไปจับฮีโมโกลบิน ส่งผลให้เกิดร่างกายขาดออกซิเจน หมดสติ ถึงขั้นเสียชีวิตได้

  • ออกซาลิก

เมื่อได้รับเข้าไปแล้ว มันจะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมในร่างกาย ภายหลังจะส่งผลทำให้เกิดโรคนิ่วขึ้น

  • น้ำตาลบางชนิด

ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลประเภทนี้ได้ ทำให้มีอาการท้องอืด แน่นท้อง

  • สารในบรอกโคลี

เลือกผักอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

  • เลือกซื้อตามฤดูกาล
  • มีสีสันตามธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาด ไม่มีคราบเชื้อรา
  • สังเกตว่ามีรู รอยเจาะ กัดของแมลงหรือไม่ หากมีแสดงว่าไม่มีการใช้สารเคมีของผักนั้น
  • ดูฉลาก บอกแหล่งที่มา รวมทั้งวัน เดือน ปี หมดอายุ หรือได้รับการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ
  • รับประทานผักผลไม้อย่างหลากหลายชนิด
  • หากสามารถทำการปลูกได้และนำมาบริโภคเอง เช่น พริก กะเพรา และผักชี เป็นต้น
  • ดูฉลากก่อนซื้อผัก

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

ล้างผักอย่างไรให้ปลอดจากสารเคมี

  • ล้างผ่านน้ำสะอาด
  • เด็ดผักออกแช่ในน้ำนาน 15 นาที
  • ต่อมาเปิดน้ำไหลผ่านผัก
  • ถูบริเวณต่าง ๆ ให้สะอาดทั้งหมด

ผงฟู หรือ Baking Soda

  • นำผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ ละลายในน้ำ 20 ลิตร
  • นำผักแช่ไว้ 15 นาที
  • ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ

น้ำส้มสายชู

  • น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 4 ลิตร
  • แช่ผักไว้ 10 นาที
  • ล้างด้วยน้ำสะอาด

ด่างทับทิม

  • นำด่างทับทิมประมาณ 20 – 30 เกล็ด ละลายในน้ำ 4 ลิตร
  • แช่ไว้ 10 นาที
  • ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

หากต้องการให้สุขภาพดีควรรับประทานผัก ผลไม้ที่ถูกสุขลักษณะ ประมาณ 400 กรัมต่อวัน นอกจากนี้ยังสามารถป้องกัน หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมองตีบ และมะเร็งบางชนิด เพราะเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ ทั้งนี้สารตกค้างในผักหรือยาฆ่าแมลงเราไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ จึงต้องใส่ใจในการล้างทำความสะอาดผักก่อนนำมาปรุงอาหาร เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ผักที่ไม่ควรกินดิบ กินมากไปอาจเกิดโทษต่อสุขภาพ

อ้างอิง:โรงพยาบาลเพชรเวช ,สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม