“ผู้ว่ากทพ."เตรียมถกม.เกษตร จบปม“ด่วนขั้นที่3สายเหนือ”

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยภายหลังลงนามเข้ารับตำแหน่งผู้ว่า กทพ.อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า งานสำคัญที่ตนจะเข้ามาเร่งดำเนินการ คือ ปัญหาการประกวดราคาโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพด้านตะวันตก ซึ่งปัจจุบันได้ประกวดราคาไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถลงนามสัญญาได้อีก 2 สัญญา

นอกจากนี้ จะเร่งดำเนินการหารือทำความเข้าใจกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 (สายเหนือและสายใต้) กรณีโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก เพราะเล็งเห็นว่าโครงการนี้แม้จะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน แต่เป็นโครงสำคัญของประเทศที่จะใช้เชื่อมต่อตะวันออก และตะวันตก

“ขณะนี้มี 2 ทางเลือก คือ ไม่ทำ หรือเปลี่ยนวิธีใหม่เพื่อให้โครงการไปต่อ แต่ไม่ใช่เปลี่ยนแนว หากไม่ได้ข้อยุติ ผมอาจต้องขอโทษประชาชนที่ต้องยกเลิกโครงการก็ได้ ต้องขอคุยดูก่อน”

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนเพิ่มรายได้องค์กร 3 ช่องทาง ประกอบไปด้วย 1.ขยายโครงข่าย เพิ่มช่องทางผู้ใช้รถ ซึ่งปัจจุบัน กทพ.มีโครงข่ายสำคัญอยู่ระหว่างศึกษาลงทุน อาทิ ส่วนต่อขยายทางพิเศษบูรพาวิถี เชื่อมทางหลวงพิเศษหมายเลข (มอเตอร์เวย์) 7 และทางด่วนสายใหม่ กาญจนาภิเษก – นครนายก

2.ลดรายจ่ายองค์กร เช่น กระบวนการซ่อมบำรุงทาง ที่ปัจจุบันพบว่าบางส่วนของ กทพ.อาจจะมีการจัดใช้งบประมาณที่สูงกว่าหากเทียบกับระบบที่เอกชนดำเนินการ ดังนั้นส่วนนี้จะมีการทบทวนรายการซ่อมบำรุงทาง โดยอาจเอาระบบของเอกชนเข้ามาปรับใช้ เพื่อทำให้รายจ่ายส่วนนี้ลดลง และ 3. เพิ่มรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ใช้ประโยชน์ให้เต็มจากพื้นที่ที่ กทพ.สามารถหารายได้เพิ่มเติมได้ อาทิ พื้นที่ใต้ทางด่วน เป็นต้น

นายสุรเชษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า กทพ.ขานรับนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเรื่องของการยกเลิกไม้กั้นบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่าน โดยจะโยกย้ายพนักงานเพื่อให้องค์กรดำเนินงานอย่างมีศักยภาพ ซึ่งจะจัดทำให้แล้วเสร็จภายในปีนี้

ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า บอร์ดได้มอบนโยบายให้ผู้ว่า กทพ.เร่งรัดดำเนินงาน อาทิ เร่งสัญญาทางด่วนพระราม 3 ในส่วนของสัญญาที่ 1 ทางยกระดับจากแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เซ็นทรัลพระราม 2 ที่มีกิจการร่วมค้า CNA (ประกอบด้วย บจ.ไชน่าสเตทคอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง, บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ และ บจ.เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964)) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด

และสัญญาที่ 3 ทางยกระดับจากโรงพยาบาลบางปะกอก 9 – ด่านดาวคะนอง ที่มีกิจการร่วมค้าไชน่าเรลเวย์-ซีวิล-บุญชัย (ประกอบด้วย บจ.China Railway 11 th Bureau Group Corporaton, บจ.ซีวิลเอ็นจิเนียริ่ง และ บจ. บุญชัยพาณิชย์ (1979)) เป็นผู้เสนอต่ำสุด

เนื่องจากการประกวดราคาทั้งสองสัญญานั้น ยังไม่เป็นผลอย่างเป็นทางการ เนื่องจากปัจจุบันติดปัญหาการตีความทางกฎหมายตามระเบียบพัสดุ ของกรมบัญชีกลาง เรื่องการพิจารณาผลงาน คุณสมบัติ การถือหุ้นต่างๆ ส่วนจะต้องยกเลิกผลประมูลหรือไม่ต้องรอการพิจารณาให้ชัดเจนก่อน