“พิพัฒน์” ถกผู้ประกอบการท่องเที่ยววันนี้ จัดแพ็คเกจดึงเอ็กซ์แพท 2 ล้านคนเที่ยวไทย ดันรายได้สะพัดหมื่นล้าน พร้อมหารือนายกฯสั่งการอุทยานแห่งชาติ แหล่งท่องเที่ยว เก็บค่าที่พัก เข้าชม เท่ากับคนไทย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วันนี้ (5 ส.ค.) กระทรวงฯและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว จัดแพ็คเกจดึงกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานและพำนักในไทย (Expats)จำนวน 2 ล้านคนให้ออกเดินทางเที่ยวไทยโดยจะต้องได้ราคาห้องพักและค่าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายใต้มาตรฐานราคาเดียวกับที่คนไทยได้ ไม่ใช่ราคาชาวต่างชาติ
“ในช่วงโควิด-19 ยังระบาดทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีข้อจำกัดด้านการเดินทางเข้าไทย จึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์รุกเสนอขายแพ็คเกจดึงกลุ่มเอ็กซ์แพทในไทยที่มีกว่า 2 ล้านคน กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะขอหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยสั่งการไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้อุทยานแห่งชาติและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น วัดวาอาราม เก็บราคาเข้าชมในอัตราเดียวกับคนไทย”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. คาดหวังว่าการส่งเสริมตลาดเอ็กซ์แพทในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นรายได้ท่องเที่ยวให้สะพัดในไทยไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดย ททท.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยออกบัตรแสดงตนแก่กลุ่มเอ็กซ์แพท เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าพำนักในไทยจริง ใช้สำหรับแสดงสิทธิก่อนจ่ายค่าที่พักและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมประสานขอความร่วมมือกับภาคเอกชนในการเก็บค่าที่พักจากเอ็กซ์แพทเท่ากับคนไทย โดยจะเร่งให้ได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้กลยุทธ์ของ ททท.ในไตรมาสที่ 3 ต้องการเห็นรายได้การท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างโมเมนตัมให้ภาคเอกชนท่องเที่ยวอยากกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังหยุดชั่วคราวมานาน และมีขวัญกำลังใจในการฟื้นฟูเศรษฐกิจว่ายังพอมีดีมานด์จากตลาดในประเทศ แต่ถ้าไม่เอาดีมานด์ในประเทศออกมาหมุน ปล่อยให้ผู้ประกอบการรอดีมานด์จากต่างประเทศอย่างเดียว ก็นับว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะยังไม่แน่ชัดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับเข้ามาอีกทีเมื่อไร
ล่าสุดก็มีสัญญาณที่ดี เมื่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศกำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 3) เพื่อผ่อนผันให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศได้เพิ่มขึ้น เฉพาะกลุ่มผู้มีที่พักอาศัยในประเทศไทย และผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย สามารถเดินทางเข้ามาได้พร้อมกับครอบครัว ทั้งนี้ผู้ที่เดินทางเข้ามาจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กำหนดไว้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.2563 เป็นต้นไป
ด้านรายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยล่าสุด เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ไม่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จากการระบาดของโรคโควิด-19 โดย 6 เดือนแรกตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย.2563 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 6.7 ล้านคน หดตัว 66.15%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีรายได้ 3.3 แสนล้านบาท หดตัว 65.15%