‘วาว แฟคเตอร์’ รุกธุรกิจอาหารทุ่ม 430 ล้านบาท ซื้อแบรนด์ Domino’s Pizza
“วาว แฟคเตอร์” รุกหนักธุรกิจอาหาร ทุ่ม 430 ล้านบาท ซื้อแบรนด์ Domino’s Pizzaเตรียมขยายอีก 50 สาขา ปูพรมทั่วกรุงเทพฯ
นายศิรัตน์ รัตนไพฑูรย์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ W เผยถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ว่า บริษัทฯ ได้ปรับแนวทางธุรกิจมาสู่กลุ่มธุรกิจอาหารเป็นหลัก จากเดิมที่อยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดยที่ผ่านมาได้เข้าไปซื้อแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำเข้ามาเปิดสาขาในไทย 7แบรนด์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี
ล่าสุด บริษัทฯ ได้เตรียมเข้าไปซื้อธุรกิจ Domino’s Pizza ซึ่งเป็นแบรนด์พิซซ่าจานด่วนสัญชาติอเมริกา ที่มีจุดเด่นในการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และการให้บริการที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และเป็นแบรนด์ที่มีความเป็น Neighborhood Restaurant สูงมาก โดย Model ธุรกิจ “DOMINO’S PIZZA” เป็นการดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์
การลงทุนในครั้งนี้ของ W จะเป็นการซื้อกิจการร้านพิซซ่าจากเจ้าของเดิมในประเทศไทย และการเข้าทำสัญญาสิทธิการค้ากับ DOMINO’S PIZZA INTERNATIONAL FRANCHISING INC. หรือ “DPI” เพื่อให้ได้สิทธิในการเปิดร้าน “DOMINO’S PIZZA” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
“จะขออนุมัติผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 ส.ค. นี้ใช้เงินลงทุนประมาณ 430 ล้านบาท และได้จ่ายมัดจำไปแล้ว 100 ล้านบาท ซึ่งเงินที่จะนำมาลงทุนจะมาจากการเพิ่มทุนประมาณ 100 ล้านบาท และการขายธุรกิจเดิมที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก”
หลังจากซื้อ DOMINO’S PIZZA มาแล้ว จะลงลึกในรายละเอียดยุทธศาสตร์การบุกตลาดประมาณ 2-3 ไตรมาสและใช้เงินประมาณ 60 ล้านบาทปูพรมอีก 20 สาขาในกรุงเทพ และภายในสิ้นปี 2564 จะเพิ่มสาขาให้ได้50 สาขาโดยกลยุทธหลักจะทำให้พิซซ่ามีราคาลดลงในระดับที่ทุกคนจับต้องได้ บริการส่งถึงที่อย่างสะดวกรวดเร็วใช้เทคโนโลยีโลจิสติกที่ทันสมัยของ DPI เพื่อให้คนไทยนิยมกินพิซซ่าในชีวิตประจำวัน
“การลงทุนครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้จากปัจจุบันที่กว่า 200 ล้านบาท เพิ่มเป็นกว่า 300 ล้านบาทในปี64 และเพิ่มขึ้นเท่าตัวประมาณ 600 ล้านบาท ในปี65จากสินค้าที่มีคุณภาพและการได้รับความร่วมมือจาก DPI ในเรื่อง Know how, เทคโนโลยี และประสบการณ์ในการ Turn Around ธุรกิจนี้จะเป็น Key Factorมั่นใจว่าจะผลักดันให้ Domino’s Pizza ได้รับความนิยมสูงขึ้นได้อีกหลายเท่าตัวในไทย และธุรกิจนี้จะเป็นเรือธงของ W ในอนาคต”