เลือกตั้งนายกฯ 'สภาวิชาชีพบัญชี' คึกคัก จับตา1ทุ่มตรงวันนี้รู้ผล
เลือกตั้งนายกฯสภาวิชาชีพบัญชีคึกคัก โดยสมาชิกนับหมื่นรายได้เดินทางเข้ามาลงคะแนน ซึ่ง"จักรกฤศฎิ์" ชูนำระบบไอทีเข้าพัฒนา ขณะที่"วรวิทย์" จะพัฒนาความรู้ความสามารถสมาชิกให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(22ส.ค.)สภาวิชาชีพการบัญชีได้จัดให้มีการเลือกตั้งนายกสภาวิชาชีพการบัญชีคนใหม่ เพื่อมาทดแทนนายกสภาวิชาชีพการบัญชีคนเก่าที่หมดวาระการดำรงตำแหน่งระยะเวลา 3 ปี โดยมีทีมสมัครเข้ารับเลือกตั้งจำนวน 2 ทีม นำโดยนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล นายกสภาวิชาชีพการบัญชีคนปัจจุบัน และ นายวรวิทย์ เจนธนากุล ผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่ง
ทั้งนี้ การคัดเลือกนั้น ได้ใช้วิธีการลงคะแนน เริ่มตั้งแต่ 10.00 น.-15.00 น.จากนั้น จะมีการนับคะแนนเพื่อประกาศว่าฝ่ายใดได้รับคะแนนมากกว่า ซึ่งบรรยากาศการลงคะแนนเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีสมาชิกเข้าร่วมคัดเลือกจำนวนมากจากจำนวนสมาชิกทั้งหมดกว่า 8 หมื่นคน ส่วนผลการลงคะแนนจะทราบในเวลา 19.00 น. วันนี้
นายจักรกฤศฎิ์กล่าวว่า วิสัยทัศน์ในการสมัครเข้าชิงตำแหน่งสำหรับทีมของตนนั้น คือ ต้องการผลักดันให้สมาชิกสามารถจัดทำบัญชีที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์การกำกับต่างๆและช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดทำบัญชีเล่มเดียวได้อย่างถูกต้อง โดยจะต้องดูแลทั้งผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ให้มีต้นทุนทางบัญชีที่ถูกลง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตนได้ผลักดันการผ่อนผันมาตรฐานการบัญชีต่างๆเพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีการปรับตัว แต่ยังคงมาตรฐานหลักไว้ โดยได้นำระบบไอทีเข้ามาช่วยในการจัดทำบัญชีเล่มเดียว ซึ่งจะเชื่อมโยงและอยู่ในมาตรฐานบัญชีกับหน่วยงานต่างๆโดยเฉพาะกรมสรรพากรและสถาบันการเงิน
"ขณะนี้ สภาวิชาชีพการบัญชีจะเร่งจัดทำรูปแบบบัญชีทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเชื่อมโยงระบบข้อมูลกับธนาคารกรุงไทย และหลังจากนี้ จะจัดทำบัญชีจิ๋วเพื่อผู้ประกอบการคนตัวเล็กให้สามารถจัดทำบัญชีเล่มเดียวได้อย่างถูกต้องเพื่อให้สามารถรายงานต่อกรมสรรพากรได้"
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้เขากล่าวว่า ทีมของตนไม่มีนโยบายการซื้อเสียงหรือระดมพลมาลงคะแนน แต่จะให้เป็นการเลือกตั้งโดยอิสระ
ทั้งนี้ หากทีมตนได้รับการเลือกตั้ง จะพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้ารับเป็นคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีจากผู้ทรงคุณวุฒิและจากนักวิชาการ เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางด้านอาชีพ
ด้านนายวรวิทย์กล่าวว่า หากทีมของตนได้รับการเลือกตั้ง จะนำระบบไอทีเข้ามาพัฒนามาตรฐานการทำบัญชีให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมกับ การยกฐานะสมาชิกผ่านการให้ความรู้แก่สมาชิกเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในอาชีพให้มากขึ้นและทั่งถึง และจะเชื่อมความสัมพันธ์กับวิชาชีพอื่นๆ
เขากล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า ทางกลุ่มซีพีส่งทีมของตนเข้ามาครอบสภาวิชาชีพการบัญชี โดยยืนยันว่า ทางกลุ่มซีพีไม่ได้ส่งตนมา แต่ตนต้องการอาสามาทำหน้าที่นี้ด้วยตนเอง โดยมองถึงประโยชน์ในภาพรวม ไม่ได้ต้องการหาผลโยชน์จากการลงเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งนี้ สภาวิชาชีพการบัญชีมีรายได้แค่หลัก 50 ล้านบาทเท่านั้น หากเทียบกับธุรกิจซีพีที่มีรายได้เป็นแสนล้าน ดังนั้น จึงไม่เป็นประเด็นที่กล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งหากผลประโยชน์ในสภาวิชาชีพการบัญชีมีจริง จะต้องมีทีมที่ลงเลือกตั้งมากกว่า 2 ทีมแน่นอน