CKP - ถือ
ฟ้าใสหลังฝน
ปริมาณน้ำล่าสุดที่ไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรี (XPCL) เพิ่มขึ้นเป็น 8,000 CMS ซึ่งสนับสนุนให้ XPCL มีการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีขึ้นตามปริมาณน้ำที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันเราคาดว่าโครงการใหม่คือโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางจะเพิ่มมูลค่าให้กับ CKP ราว Bt2.2/sh คงคำแนะนำ ถือ และ ราคาเป้าหมาย Bt5.25/sh โดยมี upside เพิ่มเติมจากโครงการใหม่ที่ยังไม่ได้รวมในประมาณการ
เขื่อนไซยะบุรีผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา
ปริมาณน้ำเข้าเขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) ในกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเป็น 431 MCM (+ 11% yoy, + 42% mom) ในขณะที่ปริมาณน้ำที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) เฉลี่ยอยู่ที่ 3,014 CMS (+ 45% yoy, + 31% mom) ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าความเป็นไปได้ของภาวะฝนตกหนัก (La Niña) ที่สูงขึ้น ล่าสุดปริมาณการไหลของน้ำที่ XPCL เพิ่มขึ้นเป็น 8,000 CMS หนุนให้ XPCL ทำงานผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้จากโมเดลของเราพบว่า XPCL จะรับรู้กำไรราว Bt380m ต่อเดือน หากทำงานด้วยอัตราการใช้กำลังผลิต 100%
ศักยภาพของ upside จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใหม่
CKP ได้พัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางในลาวซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง (Installed Capacity) 1,400 MW คาดว่าจะสามารถลงนามข้อตกลงภายใน 1Q21 เราคาดว่าโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางจะเพิ่มมูลค่าให้ CKP ที่ราว Bt2.2/sh ตามสมมติฐานของเราดังนี้ (1) ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี (2) อัตราค่าไฟฟ้าพื้นฐานที่ (Tariff) 2.20 บาทหน่วย (3) CKP ถือหุ้น 37.5%, (4) ยอดหนี้ในการทำโครงการเท่ากับ Bt33.75b, (5) WACC 4.60% และ (6) terminal value = 0
คงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมาย Bt5.25 /sh
กำไร 2H20 จะปรับตัวดีขึ้นตามปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนที่เพิ่มขึ้นมาก แม้การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนว่าปัจจัยบวกต่างๆ แล้ว แต่หุ้น CKP ยัง upside เพิ่มเติมจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใหม่ราว Bt2.20 /sh ที่ยังไม่ได้รวมในประมาณการ คงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมาย Bt5.25 /sh