ERW - ถือ
เจ้าหญิงนิทรา
Event
อัพเดตข้อมูลบริษัท
Impact
รอคอยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา
เนื่องจาก ERW เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก อนาคตของบริษัทส่วนมากจึงผูกอยู่กับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งยังเป็นความหวังที่เลือนรางในระยะสั้น นอกจากนี้ เรายังเป็นห่วงความเสี่ยงทางการเงินของบริษัท เนื่องจากสัดส่วน D/E เกือบจะชนเพดาน debt covenant แล้วใน 2Q63
ในขณะที่เราคาด ERW จะยังคงรายงานผลขาดทุนสุทธิต่อเนื่องไปถึง 1H64F
คาดว่าจะฟื้นตัวได้อย่างอ่อน ๆ ใน 2H63F โดยมี Hop Inn เป็นตัวนำ
จนถึงขณะนี้ ERW กลับมาเปิดบริการโรงแรมครบทุกแห่งแล้ว ในขณะเดียวกัน occupancy ของโรงแรมในเครือก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำโดย Hop Inn ซึ่งมี OCC อยู่ที่ 60-65% quarter-to-date ในขณะที่โรงแรมระดับกลาง และราคาประหยัดมี OCC อยู่ที่ 20-25% และโรงแรมหรูมี OCC อยู่ที่ 10% เมื่อมองต่อไปข้างหน้า เราคาดว่าผลประกอบการน่าจะฟื้นตัวได้อย่างอ่อน ๆ โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศ
ความเสี่ยงทางการเงินจะเป็นประเด็นคงค้างที่กดดันราคาหุ้นในระยะสั้นถึงกลาง
เรายังคงมองว่าสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ยืดเยื้อไปจนถึงปี 2564F อาจจะบีบให้ ERW ต้องพิจารณาเพิ่มทุนในที่สุด (Figure 6)
เมื่อสิ้นงวด 2Q63 สัดส่วน D/E ของ ERW อยู่ที่ 2.4x และเราคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.0x (เกิน debt covenant ที่ 2.5x) ในเบื้องต้น เราลองใช้สมมติฐานว่า ERW จะเพิ่มทุน 630 ล้านหุ้น (dilution 20% ที่ราคาขาย 3.00 บาท/หุ้น) ซึ่งจะทำให้ D/E จะลดลงมาอยู่ได้ในระดับ 2.0-2.1x ในปี 2563-64F
ปรับลดประมาณการปี 2563-64F ลง 25%/275%
เราปรับลดประมาณการปี 2563/64F ลง 25%/275% เพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์ COVID-19 ล่าสุด
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ถือ ERW เนื่องจากการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจที่ต่ำ ในขณะที่ความเสี่ยงทางการเงินยังมีค่อนข้างสูง เราให้ราคาเป้ าหมายใหม่ที่ 3.60 บาท อิงจาก 2565F EV/EBITDA ที่ 12.9x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5 S.D. ทั้งนี้ เราได้ discount EBITDA ไป 1 ปีแล้ว โดยใช้ WACC ที่ 9.3% โดยเราอาจทบทวนคำแนะนำหุ้น ERW อีกครั้ง หากพบว่าความเสี่ยงทางการเงินลดลง รวมถึงมีความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19
Risks
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าที่คาดไว้