`วินด์ เอนเนอร์ยี่`จ่อทุ่ม 4.8 หมื่นลบ. ขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 800 MW
“วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง”จ่อทุ่มเงินลงทุน 4.8 หมื่นล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 800 MW ตามแผน 5 ปี ดันกำลังผลิตแตะ 1,500 MW พร้อมเล็งปิดดีลพลังงานลมไต้หวัน เวียดนาม 600-800 MW สิ้นปีนี้ ลุ้นจ่ายปันผลเป็นครั้งแรกรอบ 11 ปี อัตรา 1.40 บาทต่อหุ้น
นายกำธร กิตติอิสรานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เปิดเผยว่าบริษัทกำหนดเป้าหมายแผนธุรกิจระยะ 5 ปีข้างหน้าจะผลักดันให้กำลังการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แตะระดับ 1,500 เมกะวัตต์ (MW) จากปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 717 MW จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม 8 แห่ง โดยมองหาโอกาสการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เบื้องต้นจะเป็นประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าอาจต้องใช้เงินทุนอีกกว่า 4.8 หมื่นล้านบาทในการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 800 MW ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเงินทุนของบริษัทปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยมั่นใจว่ามีแหล่งเงินทุนเพียงพอ เพราะบริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาปีละกว่า 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าปลายปีนี้จะสรุปการลงทุนโครงการวินด์ฟาร์ม ขนาด 600-800 MW ในต่างประเทศ เช่น ไต้หวันและเวียดนาม เบื้องต้นคาดมีมูลค่าลงทุนประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการระดมทุนหลายวิธีทั้ง การออกตราสารหนี้,กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน,เงินกู้จากสถาบันการเงิน,การเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (PP) และการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งขณะนี้บริษัทเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม แต่ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้ เพราะบริษัทอยู่ระหว่างจัดโครงสร้างแหล่งเงินทุนให้เหมาะสมกับแผนการลงทุนในอนาคต
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุน โดยแบ่งเป็นแผนระยะสั้นคือการระดมทุนจากตลาดตราสารหนี้ ซึ่งมีแผนออกหุ้นกู้เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ชำระหนี้เงินกู้ และนำไปใช้ขยายกิจการ รองรับแผนลงทุนเพื่อผลักดันกำลังการผลิตแตะ 1,500MW ตามเป้าหมาย ส่วนแผนระยะยาวคือ อยู่ในช่วงจัดโครงสร้างธุรกิจและโครงสร้างทางการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักหลักทรัพย์ฯ
อย่างไรก็ตามบริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) หากมีความน่าสนใจให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ตัวเลข 2 หลัก ซึ่งมีการศึกษาทั้ง ไต้หวัน,เวียดนาม, เมียนมา,ยุโรป และสหรัฐฯ
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 62 มีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 5,888 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ขายไฟฟ้า 8 โครงการ และเชื่อว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะอยู่ในระดับที่ดี สามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น โดยบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ที่อัตราหุ้นละ 1.40 บาท จากผลการดำเนินครึ่งแรกปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.63)
"ความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารธุรกิจของ WEH สะท้อนจากผลประกอบการปี 62 ซึ่งเป็นปีแรกที่รับรู้รายได้จากการขายไฟจากโรงไฟฟ้าครบทั้ง 8 แห่ง โดยมีกำไรสุทธิ 5.88 พันล้านบาท มี EBITDA มากกว่า 8,000 ล้านบาท และมีรายได้กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 5 เท่า จากปี 56"