SCGP - ซื้อ
3Q กดดันจากกระดาษพิมพ์และอัตราแลกเปลี่ยน
- 3Q20 highlights
กำไร 3Q อยู่ที่ 1.34พันลบ. (EPS 0.43บาท), -30% qoq และ-9% yoy
รายได้การขายเติบโต 8% qoq แต่ -5% yoy การเติบโต QoQ ได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของบรรจุภัณฑ์ไฟเบอร์ (+9% qoq) และกระดาษบรรจุภัณฑ์ (+15% qoq) รายได้จาก บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ (PPP) ลดลง 12% qoq เนื่องจากความต้องการที่ลดลงของผลผลิตการเกษตรและการใช้จ่ายที่ลดลงของผู้บริโภคใน 2Q จากการปิดเมือง รายได้จากธุรกิจเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียน (fibrous chain) ลดลง -5% qoq จากการพิมพ์และกระดาษเขียนลดลงเนื่องจากการปิดโรงเรียนและสำนักงาน EBITDA เพิ่มขึ้น 4% qoq แต่ -1% yoy ด้วยอัตรา EBITDA ที่ 18% คงที่ qoq กำไรสุทธิ 3Q อยู่ที่ 1.34พันลบ. (0.43 บาท EPS), -30% qoq และ -9% yoy การลดลง QoQ เนื่องจากการขาดทุนค่าเงิน 201ลบ. จาก Fajar Indonesia เทียบกับกำไรค่าเงิน 872ลบ.ใน 2Q หากตัดผลกระทบค่าเงินออกไป กำไรปกติเติบโต 10% qoq แต่ -4% yoy สู่ระดับ 1.6พันลบ.
- Outlook
การเติบโตที่แข็งแกร่งจากการขยายและการควบรวม (M&A)
ในการประชุมนักวเคราะห์เมื่อวานนี้ ฝ่ายบริหารยืนยันการเข้าซื้อ SOVI ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ไฟเบอร์ใหญ่อันดับที่ 6 ในเวียดนามจะได้ข้อสรุปในสิ้นปีนี้ SCGP ได้ลงทุน 8.2พันลบ.ในการขยายกำลังการผลิตใน 4 ประเทศ; i) BATICO (+20% บรรจุภัณฑ์อ่อนตัวในเวียดนามใน 3Q20), ii) Fajar (+29% สำหรับบรรจุภัณฑ์กระดาษในอินโดนิเซีย, 1Q21), iii) UPPC (+50% บรรจุภัณฑ์กระดาษในฟิลิปปินส์, 2Q21), และ iv) Prepack (บรรจุภัณฑ์อ่อนตัวในไทย, 2Q21). These will be the near-term growth drivers.
- Recommend BUY, TP Bt42/sh
ราคาหุ้น SCGP อาจถูกกดดันจากแรงขายในระยะสั้น เนื่องจากความคาดหวังผลการดำเนินงานจากตลาด ความต้องการสำหรับบรรจุภัณฑ์จะเติบโตเร็วกว่า GDP โลกโดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้ม e-commerce ราคาเป้าหมาย 42บาทต่อหุ้นของเราเทียบเท่า 20x FY21F PE