BEC - ซื้อ
มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นในปี 2564
Event
ปรับประมาณการผลประกอบการ
Impact
ขยายธุรกิจเป็นผู้ผลิตคอนเทนท์และแพลตฟอร์มความบันเทิงในภูมิภาค
ถึงแม้ว่าธุรกิจโฆษณาจะยังคงเป็นธุรกิจหลักของ BEC แต่เราคาดว่าธุรกิจนี้จะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง เพราะค่าโฆษณาจะยังคงถูกกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรง และการรุกเข้ามามากขึ้นของสื่ออินเตอร์เน็ตทั้งนี้ BEC ได้ปรับกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตระยะยาว โดยหันมาเน้นสร้างรายได้จากการขายคอน
เทนท์ไปต่างประเทศ (Global Content Licensing-GCL) และรายได้จากบริการออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยในงวด 9M63 รายได้จาก GCL โตถึง 334% YoY และสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้ก็เพิ่มขึ้นจาก 1% ของรายได้รวมใน 9M62 เป็น 7% เพราะมีการออกอากาศละครแบบคู่ขนานไปพร้อมกับประเทศอื่นในเอเชีย
ถึง 5 เรื่อง ทั้งนี้เราคาดว่ารายได้จาก GCL จะเพิ่มขึ้นในปี 2564-65 จากการออกอากาศละครแบบคู่ขนาน 6-7 เรื่อง ซึ่งคาดจะหนุน EBIT margin จาก -3% ในปี 2563 เป็น +14% และ +15% ในปี 2564-65
ขาย BEC TERO ENTERTAINMENT ออกไปเพื่อลดภาระ
เนื่องจาก BEC ขายหุ้นทั้งหมด 59.99% ที่ถืออยู่ใน BEC TERO ENTERTAINMENT ออกไปตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2563 ทำให้ไม่ต้องรวมผลการดำเนินงานของบริษัทนี้เข้ามาในงบรวมของ BEC ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นไป เราคิดว่าธุรกรรมนี้จะส่งผลดีกับ BEC เพราะจะไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก BEC TERO ENTERTAINMENT อีกในปี 2564 อย่างเต็มปี ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทลูกแห่งนี้ในช่วง 3 ปีก่อนหน้า มีผลขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง โดยส่งผลขาดทุนมาที่ BEC ประมาณ 25-127 ล้านบาทระหว่างปี 2560-62 ในขณะที่คาดว่า BEC TERO ENTERTAINMENT จะมีผลขาดทุนในปี
2563 อีก 116 ล้านบาท
ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2563-64 ขึ้น
เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มที่เป็นบวกมากขึ้นตั้งแต่ 4Q63 เป็นต้นไป เราได้ปรับเพิ่มประมาณการปี 2563-64 ขึ้น จากการถอด BEC TERO ENTERTAINMENT ออกจากประมาณการ i) ปรับลดประมาณการรายได้ปี 2563-64 ลงจากเดิม 2% - 18% ii) ปรับลดประมาณการต้นทุนปี 2563-64 ลง 1% - 21% iii) ปรับลดประมาณการ SG&A ปี 2563-64 ลง 8% - 39% ซึ่งหลังจากปรับประมาณการดังกล่าวแล้ว ทำให้ประมาณการผลขาดทุนสุทธิในปี 2563 ลดลงจากเดิมที่ 393 ล้านบาท เหลือขาดทุนแค่ 375 ล้านบาท และทำให้ประมาณกำไรสุทธิในปี 2564 เพิ่มขึ้น 25% เป็น 504 ล้านบาท
Valuation and action
เมื่ออิงตามประมาณการใหม่ และปรับเพิ่ม terminal growth จากเดิม 0.5% เป็น 1.5% เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มที่สดใสมากขึ้นในระยะยาว ทำให้เราได้ราคาเป้ าหมาย DCF ใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 5.70 บาทเป็น 8.50 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.3%) ซึ่งยังมี upside จากราคาตลาดปัจจุบันอีก 18% นอกจากนี้ประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของเราก็ยังมี upside อีกจากบริการใหม่ คือ Subscription VDO on Demand (SVOD) ทำให้เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ BEC
Risks
ธุรกิจ TV หดตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ และอัตราค่าโฆษณาต่ำเกินคาด