EXIM BANK ออกมาตรการ 'พักชำระหนี้เงินต้น' ช่วยลูกค้าพื้นที่สีแดง สีส้ม และสีเหลือง
EXIM BANK ออกมาตรการ “พักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย” ช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่สีแดง สีส้ม และสีเหลือง
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในการบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อภาคการส่งออกของไทย EXIM BANK ได้ออก “มาตรการพักชำระหนี้ในพื้นที่สีแดง สีส้ม และสีเหลือง” เพื่อเข้าไปดูแล ช่วยเหลือ สนับสนุนลูกค้า ทั้งที่เป็นผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออกและผู้ส่งออก ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง (Red zone) สีส้ม (Orange zone) และสีเหลือง (Yellow zone) ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนี้
• พักชำระหนี้เงินต้น ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน
• พิเศษ! พักชำระดอกเบี้ย เป็นระยะเวลาสูงสุด 3 เดือน สำหรับผู้ประกอบการอาหารแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็ง และผักผลไม้
ภายใต้ “มาตรการพักชำระหนี้ในพื้นที่สีแดง สีส้ม และสีเหลือง” ลูกค้า EXIM BANK สามารถขอพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย โดยแจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร www.exim.go.th หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ดูแลลูกค้า ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 มีนาคม 2564 โดยธนาคารจะติดต่อกลับภายใน 3 วันทำการ
EXIM BANK ได้ติดตามสถานการณ์ผลกระทบของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2563 EXIM BANK ได้ช่วยเหลือลูกค้าโดยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 6 เดือนไปแล้วกว่า 1,400 ราย เป็นจำนวนเงิน 36,853 ล้านบาท และหลังจากนั้น มีผู้ประกอบการติดต่อขอรับมาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการหลังสถานการณ์โควิด-19 เป็นจำนวนเงิน 4,050 ล้านบาท ในครั้งนี้ EXIM BANK พร้อมเข้าไปดูแล ช่วยเหลือ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
“มาตรการช่วยเหลือของ EXIM BANK ในครั้งนี้เพื่อเยียวยาและบรรเทาผลกระทบให้แก่ลูกค้าที่อาจประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบหรือขาดแคลนแรงงานสำหรับผลิตสินค้า เนื่องจากการกักตัวหรือติดเชื้อ เป็นไปตามมาตรการภาครัฐเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการขนส่งและส่งออกสินค้า ตลอดจนปัญหาผู้ซื้อปฏิเสธสินค้าโดยเฉพาะสินค้าอาหาร อาหารทะเลแช่แข็ง และผักผลไม้ของไทย เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เพื่อรอโอกาสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสินค้าส่งออกของไทย ภายหลังการพัฒนาวัคซีนมีความคืบหน้าไปมาก” นายพิศิษฐ์กล่าว