ICHI - ซื้อ
คาดกำไรดี พร้อมโตต่อ
คาดกำไรสุทธิ 4Q20F จะอยู่ที่ 114 ลบ. (+36%yoy) โดยได้แรงหนุนจากยอดขายเครื่องดื่มวิตามินที่รับรู้เต็มไตรมาส รวมทั้งธุรกิจในอินโดนีเซียที่ยังกำไร แต่ยอดส่งออกลดลงจากการระบาดของโรค Covid-19 ใน 1Q21 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตเพิ่มขึ้น qoq จากรายได้ของเครื่องดื่มวิตามินที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง รวมทั้งมีรายได้เพิ่มจาก OEM รายใหม่ 2 ราย ที่จะมาช่วยเพิ่มรายได้ และอัตราการใช้กำลังการผลิต คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 16.4 บาท
คาดผลการดำเนินงาน 4Q20 ยังเติบโต +36%yoy
เราคาดกำไรสุทธิใน 4Q20 อยู่ที่ 114 ลบ. เพิ่มขึ้น +36%yoy จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มเครื่องดื่มวิตามินที่รับรู้เต็มไตรมาส คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 20% เพิ่มขึ้นจาก 4Q19 ที่ 17% และคาดจะรับรู้กำไรจากธุรกิจในอินโดนีเซียอยู่ที่ราว 5.4 ลบ. อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิลดลง -7%qoq จากยอดขายเครื่องดื่มกลุ่มชาเขียวที่ลดลงในช่วงฤดูหนาว และยอดส่งออกไปยัง CLMV ยังคงได้รับผลกระทบจาก Covid-19 รวมทั้งใช้งบทำการตลาด และโฆษณาสินค้าเครื่องดื่มวิตามินมากขึ้น คาดว่า SG&/sale เพิ่มขึ้นเป็น 9.5% จากเดิม 3Q20 ที่ 8.5% ซึ่งทำให้กำไรสุทธิของปี FY20 อยู่ที่ 545 ลบ. (+34%yoy) ICHI จะประกาศผลประกอบการวันที่ 25 ก.พ.
1Q21 คาดกำไรสุทธิยังเติบโตได้ดี จากรายได้ OEM ที่เพิ่มขึ้น
เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q21 จะเติบโต qoq จาก (1) กลุ่มเครื่องดื่มวิตามินที่คาดว่ายังเติบโตได้ดี จากการเพิ่มการขายไซส์เล็กในตลาด Traditional trade (2) เริ่มรับรู้รายได้จาก OEM รายใหม่ 2 ราย โดยคาดว่าจะมีรายได้ใน 1Q21 ประมาณ 70 ลบ. ซึ่งการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจาก OEM จะช่วยเพิ่มกำไรขั้นต้นโดยรวมอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามสถานการณ์ Covid-19 ว่าจะมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิดร้านสะดวกซื้อหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ส่วนมากมีสัดส่วนอยู่ใน Modern trade รวมทั้งรายได้ส่งออก CLMV ที่ยังได้รับผลกระทบจาก Covid-19
คงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมาย 16.40 บาทต่อหุ้น
ในปี 2021 คาดการเติบโตของเครื่องดื่มวิตามินยังดีต่อเนื่อง พร้อมบุกตลาดเครื่องดื่มวิตามินไซส์เล็กในตลาด TT เพื่อเพิ่มยอดขาย และส่งน้ำ pH8.5 ไปขายที่อินโดนีเซียใน 2Q21 รวมทั้งเจรจาทำธุรกิจ OEM รายใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิต และยังคงควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะนี้หุ้นมีการซื้อขายที่ระดับ 18.7x FY21F หรือ -0.7SD ของค่าเฉลี่ย 6 ปี เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”