กระแส“กัญชง”แรง ลูกค้ารายใหญ่วิ่งชน“ดีโอดี”
ทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจกำลัง “ตื่นตัว!” กระแสกัญชาและกัญชงที่คาดจะเป็นพืชเศรษฐกิจอนาคต ภายหลังกระทรวงสาธารณสุขประกาศปลดล็อกกัญชงให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงการค้าได้ โดยไม่จำกัดเป็นยาเสพติด
โดยไม่จำกัดเป็นยาเสพติด โดยเปิดให้ผู้สนใจยืนขออนุญาตปลูกและผลิตตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.2564 ขณะที่กัญชาอนุญาตให้ใช้ในวงการแพทย์ก่อน
ล่าสุดบริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของลูกค้าเป็นหนึ่งบริษัทที่ยืนขออนุญาตนำเข้าเมล็ดกัญชงจากต่างประเทศเพื่อมาปลูก โดยยื่นขอไปเมื่อ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา สอดรับก่อนหน้านี้บริษัทร่วมมือเป็นหนึ่งในผู้รับซื้อกัญชงโครงการรับสมัครผู้ปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์ของทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเครือข่ายเกษตรผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตเพาะปลูกกัญชงเป็นจำนวนมาก
“ธนิน ศรีเศรษฐี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DOD เล่าให้ “หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ” ฟังว่าตอนนี้กระแสกัญชงมาแรงมาก โดยบริษัทมีลูกค้าแสดงความสนใจให้บริษัทผลิตสินค้าให้จำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้าที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) และเป็นบริษัทที่ไม่มีพอร์ตธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอาหารเสริมมาก่อน แต่เป็นบริษัทที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการคุยในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ คาดว่าหากเจรจากันได้ข้อสรุปคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) หลายสิบล้านบาท
“เป็นลูกค้ารายใหญ่มากที่สนใจจะเพิ่มพอร์ตธุรกิจอาหารเสริมจากที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่ลูกค้ามีช่องทางการขายขนาดใหญ่ ดังนั้น หากเราได้ลูกค้ารายดังกล่าวจะมีออเดอร์เข้ามาระดับหลายสิบล้านบาท”
แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทยังไม่สามารถทำสินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชงได้แม้ถูกกฎหมายแล้ว แต่ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แบบฟอร์มและรูปแบบขั้นตอนอนุญาตยังไม่เสร็จอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่เบื้องต้นบริษัทยืนขออนุญาตในส่วนของการนำเข้าเมล็ดกัญชงเข้ามาให้เกษตรปลูกก่อน โดยคาดใบอนุญาตจะได้ไม่เกิน 75 วัน หลังจากนั้นบริษัทสามารถนำเข้าเมล็ดกัญชงมาปลูกได้ คาดว่าอีก 8 เดือนจะสามารถผลิตผลจากต้นกัญชงเพื่อดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ ปี 2565 บริษัทจะมีรายได้เติบโตจากผลิตภัณฑ์สารสกัดจากกัญชงตัวแรก ซึ่งคาดผลิตภัณฑ์ที่ อย.อนุญาตผลิตน่าจะเป็นกลุ่มสกิลแคร์, เครื่องสำอาง ส่วนกลุ่มที่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอก ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าสนใจจำนวนมาก ตอนนี้บริษัททำได้เพียงแค่คุยในรายละเอียดผลิตภัณฑ์ต้องการแบบไหนโดยบริษัทมีสูตรอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถรู้ว่าจะต้องใช่ CBD เป็นส่วนผสมเท่าไหร่
“คาดจะเห็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสมุนไพรที่ผสมสารสกัดจากกัญชงออกจำหน่ายอย่างเร็วปีหน้า หลังจากบริษัทได้ยื่นเอกสารขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานสกัดกัญชงจาก อย. ไปแล้วขึ้นอยู่กับขั้นตอนการพิจารณาของ อย. ว่าจะอนุมัติได้เมื่อไหร่ แต่ยอมรับลูกค้าให้ความสนใจและติดต่อให้บริษัทช่วยผลิตผลิตภัณฑ์จากสารสกัดกัญชงเป็นจำนวนมาก แต่กระบวนการผลิตคงต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะกว่าขั้นตอนการคิดค้นสูตรและการเพาะปลูกอาจใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือน”
เขา บอกต่อว่า สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตใกล้เคียงจากปี 2563 โดยมาจาก “กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ”ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ “สินค้าโพรไบโอติกส์”(Probiotics)ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่ช่วยปรับสมดุลในลำไส้และการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งพบว่าลูกค้าให้การตอบรับดีเป็นอย่างมาก คาดเดือน มี.ค.นี้ จะมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาโดยปัจจุบันลูกค้าอยู่ระหว่างขั้นตอนขออนุญาต อย.
สอดรับบริษัทอยู่ระหว่างปรับกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันกำลังผลิต 3 ล้านซองต่อเดือน แต่มีแผนขยายกำลังผลิตอีกเท่าตัวเป็น 6 ล้านซองต่อเดือน โดยบริษัทจะมีรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เข้ามาในไตรมาส 2/2564
“การระบาดของโควิด-19 ทำให้เทรนด์คนรักสุขภาพมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเชื่อว่าเทรนด์ดังกล่าวยังจะอยู่อีกนาน เพราะอนาคตไม่รู้ว่าจะมีโรคระบาดตัวไหนเข้ามาอีก ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่ง DOD เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่โพรไบโอติกส์ ซึ่งตลาดต้องการเป็นอย่างมาก”