Bond Yield กดตลาด

Bond Yield กดตลาด

ตลาดหุ้นวานนี้ปิดปรับตัวลง 9.29 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค คาดเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากวันก่อนหน้าตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นแรง

โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,534.11 จุด -9.29 จุด -0.60% มูลค่าการซื้อขาย 108,855 ลบ. ต่างชาติ +722.79 ลบ. TFEX -27,251 สัญญา ตราสารหนี้ +1,210 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.55 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 63.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2563 ขานรับซาอุดีอาระเบียสมัครใจที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันต่อไปอีก 1 เดือน ขณะที่กลุ่มโอเปค และโอเปคพลัส มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันที่ระดับเดิมไปจนถึงเดือนเม.ย.
+ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานเปิดเผยว่า กำลังพิจารณาปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้สามารถแข่งขันดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศกับประเทศที่เป็นคู่แข่งกับประเทศไทย
+ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแบบ "แอเรีย โฮเทล ควอรันทีน" เริ่มต้น เม.ย.-พ.ค.นี้ นำร่อง 5 จังหวัด เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี และชลบุรี

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 345.95 จุด หรือ -1.11% โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.5% หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เตือนว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อหลังเปิดเศรษฐกิจ
- เฟด เปิดเผยรายงาน Beige Book เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียงเล็กน้อยในเดือนม.ค.จนถึงช่วงกลางเดือนก.พ.ปีนี้ เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
- คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนยอมรับว่า บรรยากาศการแข่งขันระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญที่สหรัฐต้องเผชิญ
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.5% ในวันนี้ หลังการกล่าวถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล เฟด เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ
-VIX Index เริ่มปรับตัวขึ้นเป็นสัญญาณให้ระวังแรงขายในตลาดหุ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.5% หลังจากประธานเฟด เตือนว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อหลังเปิดเศรษฐกิจ แต่ยังคงได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,520-1,540 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น TTA PSL RCL
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากวัคซีนโควิด-19 AWC MINT CENTEL CPN CRC SPA AOT
• โรงพยาบาลที่ยื่นขอนำเข้าวัคซีน-19 THG BDMS BCH RAM PRINC

หุ้นรายงานพิเศษ

         PTG Bloomberg Consensus 22.10 บาท

•ปี 63 มีกำไรสุทธิ 1,906 ลบ. +22%YoY แม้รายได้ -13%YoY เหลือ 1.05 แสนลบ. จากผลกระทบของโควิด-19 และราคาน้ำมันที่ร่วงลงในช่วง 1H63 แต่ปริมาณขายกลับเติบโต 6%YoY จากการขยาย Oil & LPG Station สู่ 2,094 สถานี เพิ่มขึ้น 67 สถานี ประกอบกับ SSSG เติบโต +0.9%YoY

•ปี 64 ตั้งเป้าการเติบโต EBITDA ราว 10-15%YoY จากการขยายสถานีรวม 150 แห่ง ธุรกิจ Oil 100 แห่ง และ LPG 50 แห่ง (งบลงทุนราว 3.5 พันลบ) ตั้งเป้าปริมาณขาย Oil ราว +8-12%YoY และ LPG ราว +15-20%YoY รวมทั้งมีแผนขยายธุรกิจ Non-Oil อาทิ F&B, LPG ครัวเรือน และศูนย์ซ่อมรถ Autobacs ใช้งบราว 500 ลบ.

•โอกาสในการลงทุนธุรกิจใหม่ อาทิ EV Charger, Solar Farm และโรงไฟฟ้าขยะ รวมทั้งศึกษาการทำผลิตภัณฑ์กัญชงในธุรกิจ F&B คาดชัดเจนในช่วงครึ่งปีแรก รวมทั้งเตรียมนา 2 บริษัทในเครือที่ทาธุรกิจ LPG และปาล์มน้ำมัน เข้าตลาดฯ ปี 2565

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตทั้งธุรกิจ Oil และธุรกิจ non-oil รวมทั้งโอกาสใหม่ ๆ ราคาหุ้นซื้อขายที่ PE 18.5X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 38.3 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) NRF (Bloomberg Consensus 8.50 บาท) ลงทุน E-commerce Platform ระดับโลก ผลักดันรายได้พุ่ง 3 พันล้านบาท เร็วกว่าเป้าปี 67 พร้อมขยายกลุ่ม “Plant-Based Food” เดินหน้าลงทุนธุรกิจใหม่ผ่านดีลซื้อกิจการ (M&A) และร่วมทุน (JV) ขณะที่ปี 64 คาดรายได้โต 20% จาก 3 ธุรกิจ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) RBF (Bloomberg Consensus 11.60 บาท) ลุยธุรกิจกัญชงกลางน้ำ-ต้นน้ำ อยู่ระหว่างรออนุมัติโรงสกัดกัญชง ก่อนยื่นขออนุญาตปลูกต่อไป คาดรายได้ปี 64 โต 10-12% ชงผู้ถือหุ้น 23 เม.ย.นี้ อนุมัติขาย 2 โรงแรม หนุนกำไรเพิ่ม เหตุธุรกิจโรงแรมขาดทุน 60-80 ล้านบาท/ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EA (Bloomberg Consensus 69.00 บาท) เตรียมเดินเครื่องโรงงานแบตเตอรี่-ผลิตรถบัสไฟฟ้าในไตรมาส 2/2564 ก้าวเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว อัดงบลงทุน 6,000 ล้านบาท ลุยแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าต่อเนื่อง ล่าสุด Amita บริษัทลูกของ EA ผนึก ITRI คว้ารางวัล R&D100 พัฒนาแบต Solid-State (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPALL (Bloomberg Consensus 73.00 บาท) มองยอดขาย Q1/2564 อาจทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน อัดฉีดงบ 1.2 หมื่นล้านบาท ขยายสาขาเพิ่ม 700 สาขา และลงทุนโปรเจ็กต์ใหม่ในปี 2564 นี้ พร้อมเดินหน้าขยายอาณาจักรลาว-กัมพูชา เล็งขออนุมัติผู้ถือหุ้นขยายวงเงินออกหุ้นกู้อีก 1 แสนล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

5 มี.ค. ก.พาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ

24 มี.ค. ประชุมกนง.ครั้งที่ 2/2564

ต่างประเทศ

4 มี.ค. ประชุมกลุ่มโอเปคและโอเปคพลัส
          อียูเปิดเผยยอดค้าปลีก อัตราว่างงานเดือนม.ค.
          สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน

5 มี.ค. สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. และดุลการค้าเดือนม.ค.