กรมเจราฯเตรียมลุยภูเก็ต-ปัตตานีดันสินค้าดาวเด่นภูเก็ต-ปัตตานี ใช้ประโยชน์ เอฟทีเอ

กรมเจราฯเตรียมลุยภูเก็ต-ปัตตานีดันสินค้าดาวเด่นภูเก็ต-ปัตตานี ใช้ประโยชน์ เอฟทีเอ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เตรียมจัดทัพลงพื้นที่ 2 จังหวัดภาคใต้ แนะเกษตรกรใช้เอฟทีเอผลักดันสินค้าดาวเด่นประจำจังหวัด สู่ตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่น

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า  กรมฯ เตรียมนำทีมลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและปัตตานี ระหว่างวันที่ 8-9 มี.ค. 2564 โดยจะลงพื้นที่สำรวจศักยภาพการทำประมงเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสินค้าเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่สำคัญ เน้นส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ (FTA) ขยายส่งออกตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย จีน และเกาหลีใต้ และจะนำทีมวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญเรื่องสินค้ากลุ่มสิ่งทอ จัดสัมมนาให้ความรู้กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรผลิตผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ “พรชนก” ให้สามารถยกระดับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งขยายช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 

 

นอกจากนี้ กรมฯ จะลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ภายใต้โครงการ “สร้างเครือข่ายเชื่อมโยง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ตลาดการค้าเสรีอาเซียน” โดยจะพบหารือผู้ประกอบการและเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านประมงพื้นบ้านบูดี อำเภอยะหริ่ง ที่มีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปที่หลากหลาย อาทิ ข้าวเกรียบปลาหรือกือโป๊ะ ปลาทุบปรุงรส และปลาเส้นปรุงรส ซึ่งเป็นสินค้าได้รับมาตรฐานฮาลาลและส่งออกไปตลาดมาเลเซียและจีน รวมทั้งจะพบหารือกลุ่มอาชีพสตรีทอผ้าบ้านตรัง อำเภอมายอ ที่ผลิตผ้าจวนตานีหรือผ้าลีมา ซึ่งเป็นผ้าทอลายโบราณบนผืนผ้าไหม และจะหารือกับกลุ่มเลี้ยงปลาสลิดดอนนา อำเภอโคกโพธิ์ ที่มีผลิตภัณฑ์ปลาสลิดแดดเดียว น้ำพริกปลาสลิด และปลาส้ม ซึ่งกลุ่มต้องการเพิ่มช่องทางจำหน่ายในตลาดในประเทศและต่างประเทศ 

“การลงพื้นที่ภูเก็ตและปัตตานีครั้งนี้ กรมฯ จะเน้นการสร้างโอกาสของสินค้าที่มีศักยภาพของไทย เพื่อขยายส่งออกไปตลาดต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ของไทยได้ลดหรือยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ส่งออกจากไทยแล้ว โดยเฉพาะผู้ประกอบการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความใกล้ชิดกับตลาดอาเซียน ซึ่งสามารถขยายส่งออกได้เพิ่มขึ้นทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และบรูไน ทั้งนี้ กรมฯ จะแนะกลยุทธ์สร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน ลดการพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวที่กำลังซบเซา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด” นางอรมน กล่าว