BCH - ซื้อ
ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 2564 F
Event
ประชุมนักวิเคราะห์, ปรับประมาณการ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565
lmpact
ยังโตได้ต่อเนื่องในปี 2564F
จากการประชุมนักวิเคราะห์ของ BCH ผู้บริหารยังคงมองบวกกับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 หลังจากที่กำไรสุทธิปี 2563 ออกมาแข็งแกร่งที่ 1.23 พันล้านบาท (+8.3% YoY) บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2564 จะโตสองหลัก YoY โดยเราคาดว่ารายได้ของ BCH ปีนี้จะโต 14.8% YoY เนื่องจาก i) กลุ่มผู้ป่ วยที่ชำระเงินสดฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ii) ฐานรายได้แข็งแกร่งจากกลุ่มประกันสังคม และ iii) รับรู้รายได้จากการตรวจ COVID-19 อย่างต่อเนื่อง (ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่มากกว่า 100,000 เคนในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 จาก 54,000 เคสใน 4Q63) รวมถึงรายได้จาก ASQ, AHQ และ OQ ทั้งนี้ สถานการณ์ที่ดีขึ้นในอนาคตจากยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ลดลงจะช่วยให้ WMC ฟื้นตัวได้จากผู้ป่วยต่างชาติ อีกทั้งรายได้จากซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคตจากความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่างประเทศไทยและซาอุดิอาระเบีย เราคาดว่าเครือข่ายโรงพยาบาลของ BCH จะรับรู้รายได้จาก COVID-19 เต็มปีเพิ่มขึ้น แม้จะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดลงแล้ว นอกจากนี้ BCH จะเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่มีวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้บริการและสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากมีฐานลูกค้าใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มประกันสังคม (ยอดลงทะเบียน 880,700 ราย) ซึ่งมองเป็นโอกาสการเติบโตรายได้ในอนาคต
มีแนวโน้มเติบโตในอนาคตจากโรงพยาบาลแห่งใหม่
นอกจากผลการดำเนินงานของ KH RAM จะดีขึ้นแล้ว บริษัทยังเริ่มเปิดดำเนินการโรงพยาบาลใหม่อีกสองแห่ง ได้แก่ i) เกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี (ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564) โดยตั้งเป้าผู้ป่วยประกันสังคม 100,000 รายในปี 2564 และ ii) เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ในประเทศลาว (กำหนดเปิด
ปลาย 2Q64) ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของ BCH ในระยะยาว
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY64 ขึ้นอีก 2.8%
เมื่ออิงจากผลประกอบการ 4Q63F และแนวโน้มปี 2564 เราจึงปรับประมาณการกำไรปี FY64 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1.39 พันล้านบาท (+13.6% YoY) เราปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี FY64 เป็น 33.5% (จากเดิม 33.0%) เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นปี 2563 ดีเกินคาดที่ 33.1% มีแรงหนุนจากการตรวจคัดกรอง COVID-19 โดยรวมแล้ว เราชอบ BCH เพราะมีกลยุทธ์ธุรกิจที่ดีที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19 ด้วยการเน้นตรวจ COVID-19 ซึ่งสามารถชดเชยรายได้จากผู้ป่วยต่างที่มาใช้บริการ WMC ลดลงในช่วงที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ในปีนี้
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ที่ 23.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.5% และ TG ที่ 3.0%) จากราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 22.30
Risks
COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่