'ประวิตร' นั่งหัวโต๊ะแก้จน ดันระบบ TPMAP หวังพัฒนาคนทุกช่วงวัย

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.64 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันนี้ เวลา 10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัย อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 347/2563 ลง 30 ต.ค.63 เรื่อง จัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจน และพัฒนาคนทุกช่วงวัย อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ซึ่งกำหนดให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการฯ และแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อเป็นกลไกเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ ในการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และการพัฒนาคนทุกช่วงวัย ได้อย่างบูรณาการเป็นรูปธรรม และยั่งยืนในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ กลไกการดำเนินการขจัดความยากจนฯ โดยเน้นย้ำถึงการชี้เป้าและจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย การมีส่วนร่วมและทำงานร่วมกัน อย่างบูรณาการของทุกภาคีพัฒนา

โดยเฉพาะการทำงานในระดับพื้นที่ และได้เห็นชอบ การขับเคลื่อนการดำเนินการขจัดความยากจนฯ ผ่านระบบ TPMAP (Thai Poverty Map) ซึ่งจะทำให้ประเทศมีการพัฒนาที่สมดุล และยั่งยืน โดยมีเป้าหมายการพัฒนา เพื่อให้ประชากรในประเทศสามารถ อยู่รอด พอเพียง และยั่งยืน ด้วยการขับเคลื่อนผ่าน 4 แนวทาง กับ 1 เงื่อนไขการพัฒนา ได้แก่ 1) เติมเต็มข้อมูลในระบบ TPMAP ให้ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาทุกมิติ และทุกพื้นที่ ,2) ร่วมแก้ไขปัญหาในระดับบุคคล และครัวเรือน หาเป้าหมายวิกฤติ และเยี่ยมบ้านโดยใช้ระบบ TPMAP ,3) ร่วมแก้ไขและพัฒนาเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน โดยใช้ระบบ TPMAP และ 4) ร่วมติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลโดยใช้ระบบ TPMAP สำหรับเงื่อนไขการพัฒนา ได้แก่การพัฒนาระบบ TPMAP เพื่อเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์ สามารถสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความยากจนฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการขจัดความยากจน เพื่อให้ประชาชนอยู่ดี กินดี มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ มาอย่างต่อเนื่อง โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของรัชกาลที่ 9 นำทางแก้ปัญหา พร้อมกำชับ มท.ให้เร่งรัดจัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจน ระดับจังหวัด อำเภอ และทีมปฏิบัติการ รวมทั้งให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนฯกทม. และระดับเขต ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหาความยากจน โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เป็นอันขาด ตามนโยบายของรัฐบาล"