ธนาแลนด์ หนีสงครามราคาคอนโดปิ่นเกล้า ผุดโลว์ไรส์ถนนจันทน์ราคา8.6หมื่นบาทต่อตร.ม.
ธนาแลนด์ พลิกเกมหนีสงครามคอนโดย่านปิ่นเกล้าผุด“ธนา แอสทรา”คอนโลว์ไรส์ ถนนจันทน์ มูลค่า500ล้านบาทเจาะเรียลดีมานด์ในชุมชน พนักงานย่านสาทร สีลม ชูราคาย้อนหลัง5ปีจูงใจเฉลี่ย8.6หมื่นบาท ต่อตร.ม.
นายโกวิทย์ สุวาณิชย์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาแลนด์ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ตลาดอสังหาฯเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น แต่บริษัทยังคงต้องระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจปีนี้ จึงปรับแผนการทำตลาดให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ด้วยการเปิดตัวโครงการธนา แอสทรา คอนโดมิเนียม 8 ชั้น มูลค่า500 ล้านบาท จำนวน 154 ยูนิตบนถนนจันทน์ซอยจันทน์ 43 (ซอยวัดไผ่เงิน) ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพ เนื่องจากเป็นแหล่งค้าขาย แหล่งรวมร้านอาหารชื่อดัง และมีชุมชนดั้งเดิมที่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจสำคัญที่เชื่อมต่อถนนหลายสาย ได้แก่ สาทร สีลม เจริญกรุง สาธุประดิษฐ์ พระราม 3 และมีเส้นทางออกไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเซ็นต์หลุยส์ สุรศักดิ์ สะพานตากสิน ช่องนนทรี รวมถึงรถโดยสาร BRT สถานีถนนจันทน์ และอยู่ใกล้ทางด่วน ด่านถนนจันทน์
" ปีนี้ แทนที่เราจะเปิดคอนโดไฮไรส์ย่านปิ่นเกล้า ซึ่งมีคู่แข่งรายใหญ่เข้าเปิดตัวโครงการขนาดใหญ่ 700-1,000 ยูนิตจนเกิดสงครามราคา เราจึงเปลี่ยนมาเปิดตัวคอนโดโลว์ไรส์ โครงการ ธนา แอสทรา สาทร –จันทน์ แทนหลังจากที่โครงการนี้เลื่อนมาตั้งแต่ปี62 และปี63 เจอโควิด ถือเป็นครั้งแรกที่เข้ามาทำตลาดในย่านใกล้ซีบีดี ในระดับราคาที่จับต้องได้ ซึ่งจะเป็นโครงการเดียวที่จะเปิดในปีนี้ "
นายโกวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันดีมานด์ ซัพพลายที่อยู่อาศัยในถนนจันทน์ “ไม่มี ”จะมีแต่พื้นที่ใกล้เคียงย่านถนนเจริญกรุง- ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5แสนบาท/ตร.ม. และ โซนเย็นอากาศ - นางลิ้นจี่ เฉลี่ยราคา อยู่ที่ 1.7แสนบาท/ตร.ม. เนื่องจากทำเลดังกล่าว มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ที่ดินหาได้ยาก ฉะนั้น ระดับราคาขายเริ่มต้นของโครงการธนา แอสทรา สาทร – จันทน์ ที่อยู่ 8.6หมื่นบาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นที่ 2.2 ล้านบาท/ยูนิต จึงราคาที่ถูก เพราะเป็นราคาที่ย้อนหลัง5ปี ซึ่งถือว่าเป็นราคาขายที่ต่ำในสุดในย่านนี้ และเป็นระดับราคาที่สามารถตอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดีผู้คนมีความไม่มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย หากราคาสูงเกินไปทำให้คนไม่กล้าตัดสินใจซื้อ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะ เป็นคนในพื้นที่ พนักงานออฟฟิศ และนักลงทุน โดยปัจจุบัน หลังจากเปิดพรีเซลอย่างมียอดจองเข้ามาแล้ว 10 %
ขณะเดียวกันบริษัทได้ พัฒนาและออกแบบโครงการธนา แอสทรา สาทร– จันทน์ ให้เป็น“ทัชเลสคอนโด”ที่ควบคุมลิฟต์ด้วยระบบไร้สัมผัส และประตูทางเข้าอาคารแบบอัตโนมัติ เหมาะกับการใช้ชีวิตในยุคนิวนอร์มอล และออกแบบพื้นที่ตามฟังก์ชั่นการใช้งานจริงเช่น พื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ออกแบบกว้างกว่า 3 เมตร มีพื้นที่เก็บของส่วนตัว บริเวณ LockerZone หน้าลิฟต์แต่ละชั้น เพื่อการจัดเก็บสัมภาระได้มากขึ้นกว่าเดิม และการใส่ใจในสุขภาพของผู้อยู่อาศัยด้วยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่มีระบบกรองอากาศดักจับฝุ่น PM 2.5 อีกทั้งทางเดินส่วนกลางแต่ละชั้น ออกแบบให้มีการระบายอากาศ เพื่อให้อาคารโปร่งสบายมากขึ้น รวมถึงการประหยัดพลังงานด้วยการใช้หลอดไฟฟ้า LED ทั้งภายในห้องชุด และทางเดินส่วนกลาง เป็นต้น โดยโครงการกำหนดก่อสร้างภายในไตรมาส 4 ของปีนี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ได้ประมาณกลางปี 2566
สำหรับกลุ่มลูกค้าหลัก คาดว่า จะเป็นคนในชุมชนที่ต้องการขยายที่อยู่อาศัยในทำเลใกล้ครอบครัว และพนักงานที่เข้ามาทำงานในย่านสาทร สีลม เจริญกรุง สาธุประดิษฐ์ พระราม 3 ซึ่งมีจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่าได้ในราคา12,000บาทต่อเดือน โดยกลุ่มซื้อเพื่อลงทุนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2-3% แต่ส่วนใหญ่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นหลัก
นายโกวิทย์ ระบุว่า ปีนี้บริษัทคงรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจก่อนว่า จะฟื้นตัวได้มากน้อยแค่ไหน ขณะเดียวกันเตรียมแผนในการพัฒนาโครงการคอนโดในอนาคตให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพราะปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าจะมองหาความคุ้มค่าเป็นหลักในการเลือกซื้อสินค้า และบริการ