ครม. เคาะปรับปรุงเงื่อนไข 'เราเที่ยวด้วยกัน' เฟส 3 เริ่ม พ.ค.64
ครม. ไฟเขียวปรับปรุงรายละเอียดโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 กรุงไทยจับมือ ททท. จัดทำระบบใหม่ตรวจเข้มป้องกันการทุจริตโครงการ เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่เดือน พ.ค. - ส.ค. 2564 ระยะเวเวลาโครงการ 4 เดือน
วันนี้ (23 มี.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นำทีมเศรษฐกิจแถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือจากโควิด-19 ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล โดยอีกหนึ่งประเด็นที่ประชาชนต่างรอคอยก็คือโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ซึ่งประเด็นนี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงการปรับปรุงรายละเอียดใหม่ ดังนี้
1. "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ใช้งบประมาณ 5,700 ล้านบาท
สำหรับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ที่จะใช้วงเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 5,700 ล้านบาท ในการดำเนินการต่อจากเฟส 1 และเฟส 2 ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้จะมีการขยายสิทธิเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านสิทธิ
2. ใช้สิทธิได้พฤษภาคม-สิงหาคม 2564 (ไม่ทันวันหยุดสงกรานต์)
ประชาชนสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2564 สาเหตุที่ล่าช้าไม่ทันช่วงวันหยุดยาว "สงกรานต์" ก็เนื่องจากว่าตัวระบบที่ธนาคารกรุงไทยต้องเร่งดำเนินการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสหรือทุจริตโครงการฯ แบบที่ผ่านมา
3. ผู้ประกอบการต้องแจ้งจำนวนห้องพัก-ราคาให้ทาง ททท.
สำหรับวิธีการใช้งาน "เราเที่ยวด้วยกัน" ของทางฝั่งผู้ประกอบการโรงแรม ก็จะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมา คือครั้งนี้จะต้องมีการกดให้ความยินยอมในระบบใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทาง ททท. สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แล้ว ททท. ก็จะเอาข้อมูลห้องพักต่างๆ ที่จดทะเบียนไว้กับทางมหาดไทย มาดูว่าโรงแรมแต่ละแห่งมีจำนวนห้องเท่าไหร่
อีกทั้งแต่ละโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องส่งจำนวนห้องพักและช่วงเรตราคาของห้องพัก (ราคาสูงสุด-ราคาต่ำสุด) ให้ทาง ททท. เพื่อให้ ททท. ตรวจวสอบข้อมูลดังกล่าวด้วย
4. นักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียน และจองที่พักล่วงหน้า 7 วัน
สำหรับการใช้งานของประชาชนทั่วไป (นักท่องเที่ยว) จะต้องลงทะเบียนกับทางโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 จากนั้นให้จองที่พักที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในการจองที่พักนั้น กำหนดใหม่ว่าต้องจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เพื่อที่ธนาคารกรุงไทยจะได้ส่งข้อมูลให้ ททท. จากนั้นทาง ททท. ก็จะได้ตรวจสอบได้ว่าการจองนั้นมีความผิดปกติหรือไม่
5. ผู้ใช้สิทธิ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 ต้องสแกนใบหน้า
สำหรับประชาชนผู้ใช้สิทธิ เมื่อมีการเข้าพักในโรงแรมที่จองไว้ ก็จะต้อง "สแกนใบหน้า" ของผู้เข้าใช้สิทธิในโครงการฯ พอสแกนใบหน้าไปแล้ว ก็จะมีข้อมูล GPS ติดไปด้วย ตรงนี้ก็จะเป็นขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาเพื่อการใช้งานที่โปร่งใสมากขึ้น
6. E-Voucher ปรับปรุงใหม่ 600 บาท ราคาเดียว!
อีกประเด็นหนึ่งก็คือเรื่อง E-Voucher ซึ่งแต่เดิมเคยกำหนดไว้ 900 บาทในวันธรรมดา และ 600 บาทในวันหยุด แต่ในการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ครั้งนี้ จะปรับมูลค่าเป็น 600 บาทต่อวัน ราคาเดียวเท่านั้น ไม่มีราคาอื่น
7. ต้องท่องเที่ยวและพักแรมข้ามจังหวัดเท่านั้น
ส่วนกรอบพื้นที่ในการเดินทางท่องเที่ยว แต่เดิมเคยระบุไว้ว่าสามารถใช้สิทธิท่องเที่ยวพักแรมในจังหวัดเดียวกับภูมิลำเนาได้ แต่ครั้งนี้มีการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ว่า ต้องเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นสาระหลักๆ ของการปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
--------------------