ERW - ถือ
จะถูกกดดันจากการที่ COVID-19 กลับมาระบาดอีกระลอก
Event
ประมาณการ 1Q64F
Impact
คาดว่าจะขาดทุนปกติ 480 ล้านบาทใน 1Q64F
เราคาดว่า ERW จะมีผลขาดทุนปกติ 480 ล้านบาทใน 1Q64F จากที่ขาดทุนปกติ 344 ล้านบาทใน 4Q63 โดยปัจจัยสำคัญที่กดดันผลประกอบการในไตรมาสแรกคือการที่ COVID-19 กลับมาระบาดในประเทศไทย ซึ่งทำให้ i) RevPar รวมลดลง 75% YoY ใน 1Q64F (จาก -71% YoY ใน 4Q63) และ ii) EBIT margin ติดลบเพิ่มขึ้นเป็น -90.6% (จาก -37.3% ใน 4Q63) เนื่องจากธุรกิจสะดุด อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมผ่านจุดต่ำสุดของไตรมาสไปแล้วในเดือนมกราคม 2564 และปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดจนสิ้นไตรมาสเนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 ลง
คาดว่า RevPar รวมจะลดลง 75% YoY ใน 1Q64F
เราคาดว่า RevPar รวมจะลดลง 75% YoY ใน 1Q64F เนื่องจาก i) occupancy rate ลดลงเหลือ 26% (จาก39% ใน 4Q63) และ ii) ARR ลดลง 39% YoY โดยผลการดำเนินงานของโรงแรมทุกกลุ่มแย่ลง QoQ อย่างไรก็ตาม Hop Inn ยังคง outperform โดย RevPar ใน 1Q63 ติดลบเพียง -33% YoY เมื่อเทียบกับ RevPar เฉลี่ยของโรงแรมกลุ่มอื่น ๆ ที่ติดลบ -85% YoY
จะบันทึกผลขาดทุนก้อนใหญ่จากการด้อยค่าของสินทรัพย์
คาด ERW จะมีบันทึกผลขาดทุนก้อนใหญ่จากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ 1Q64F ของเรา แต่อย่างไรก็ตาม เราคิดว่ารายการนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงทางบัญชีที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และไม่ส่งผลกระทบกับ debt covenant ของ ERW
Valuation & Action
เนื่องจากเราคลายความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเงินของ ERW ลงไป ประกอบกับการที่บริษัทกำหนดราคาใช้สิทธิ์ Right Offering ไว้ที่ระดับที่น่าสนใจที่ 1.00 บาท/หุ้น (สัดส่วนการใช้สิทธิ์ 1.25:1 และกำหนดขึ้น XR วันที่ 11 พฤษภาคม 2564) เรายังคงคำแนะนำ ถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายแบบ
fully-diluted ไว้ที่ 3.50 บาท อิงจาก EV/EBITDA ปี 2565F ที่ 14.7x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +0.25 S.D. เราเชื่อว่าการเพิ่มทุนโดยเสนอขายหุ้นแบบ RO ของ ERW จะประสบความสำเร็จ และ ERW-W3 น่าจะเป็นแรงจูงใจที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน
Risks
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าที่คาดไว้