BBL - ซื้อ
ผลประกอบการ 1Q64: ผลการดำเนินงานดีขึ้น
Event
BBL กำไรสุทธิของ BBL ใน 1Q64 อยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท (+189% QoQ -10% YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา 40% และดีกว่า consensus 35% เนื่องจากกำไรจากการปรับมูลค่าการลงทุนตามราคาตลาด (mark-to-market fair value gain of investment หรือ FVTPL) และรายได้ค่าธรรมเนียมสูงเกินคาด แต่หากไม่รวมรายการ FVTPL กำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรอง (PPOP) ออกมาดีเกินคาดประมาณ 8% ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 1Q64 คิดเป็น 28% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
lmpact
สินเชื่อทรงตัว QoQ แต่ NIM ดีขึ้นจากการที่ต้นทุนทางการเงินลดลง
สินเชื่อรวมทรงตัว QoQ และ +12% YoY โดยสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้างลดลง 3% QoQ แต่สินเชื่อกลุ่มสาธารณูปโภคและการบริการเพิ่มขึ้นประมาณ 4% QoQ ในขณะเดียวกัน NIM ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5bps เนื่องจากต้นทุนทางการเงินลดลง
รายได้ค่าธรรมเนียมแข็งแกร่ง และมีกำไรจากการลงทุนก้อนใหญ่
รายได้ค่าธรรมเนียม และ Non-NII หลายรายการเพิ่มขึ้น โดยค่าธรรมเนียมจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน อย่างเช่น ค่าธรรมเนียม AM, รายได้เงินปันผล, และรายได้ bancassurance เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและทำให้ค่าธรรมเนียมธุรกรรมธนาคารหลัก ๆ เพิ่มขึ้น 15% QoQ และ YoY ในขณะเดียวกันกำไรจาก
การค้าหลักทรัพย์ (บันทึกผ่านงบกำไรขาดทุน และกำไรขาดทุนแบบเบ็ดเสร็จ (comprehensive income)) ก็สูงกว่าที่คาดเอาไว้อย่างมาก โดยแม้ว่า BBL จะมีผลขาดทุนที่ยังไม่รับรู้จากการลงทุนจากการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 7 พันล้านบาท (บันทึกผ่านส่วนของผู้ถือหุ้น) แต่ธนาคารก็มีผลกำไรที่ยังไม่รับรู้
จากการลงทุนในต่างประเทศประมาณ 1 หมื่นล้านบาทด้วยเช่นกัน
NPL เพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ช่วงแคบๆ
NPL โดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 4% QoQ และ 27% YoY โดยยอด NPL อยู่ที่ 1.08 แสนล้านบาท ซึ่งขยับอยู่ในช่วงแคบ ๆ ต่อเนื่องมา 4 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว ทั้งนี้ BBL กำหนด Credit cost ลดลงที่ประมาณ 110bps ใน 1Q64 (จาก ~120bps ใน 4Q63 และ ~100bps ใน 1Q63) ในขณะที่สัดส่วน NPL coverage ทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 187%
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานกลับสู่ระดับปกติ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานกลับมาอยู่ระดับปกติหลังจากที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงสองไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการธนาคารในอินโดนีเซีย และต้นทุนในการบำรุงรักษาระบบ
Valuation & Action
ผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้นจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตลาดทุน ซึ่งเรามองว่ามีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องในระยะต่อไปจากการที่ตลาดทุน (ทั้งในประเทศ และตลาดโลก) ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากกำไรสุทธิใน 1Q64 คิดเป็น 28% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ
ซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2565F ไว้ที่ 160 บาท (P/BV ที่ 0.65x)
Risks
มีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก, NPL เกิดใหม่เพิ่มขึ้นหลังสิ้นสุดโครงการผ่อนผันหนี้