ERW - ถือ (10 พ.ค.64)
การฟื้ นตัวถูกเลื่อนออกไปเป็ น 3Q64F
Event
ปรับประมาณการ
Impact
ยังเปิดให้บริการ โรงแรมทุกแห่ง
เมื่อสิ้นเดือนเมษายน 2564 ERW ยังคงเปิดให้บริการโรงแรมทุกแห่งในประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลที่ได้พบว่า ERW ไม่น่าจะกลับมาปิดบริการโรงแรมในอนาคตอันใกล้นี้แม้ประเทศจะเผชิญกับผู้ติดเชื้อรายวันที่เร่งตัวขึ้นในระยะสั้น เราคาดว่าผลกระทบด้านลบใน 2Q64F น่าจะถูกชดเชยไปได้บางส่วนด้วย
มาตรการคุมต้นทุน และผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวได้เร็วของโรงแรม Hop Inn
ปรับลดประมาณการกำไรปี 25564-65F ลง 95%/42%
เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2564-65F ลง 95/42% เพื่อสะท้อนถึงสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่ของ KGI ที่ 2.0 ล้านคนในปี 2564F และ 25 ล้านคนในปี 2565F โดยเราได้ปรับสมมติฐานสำคัญในประมาณการปี 2564F ดังนี้ i) ปรับลด RevPar ลง 42% ii) ปรับลด EBIT margin ลง 29.9 ppts ในภาพรวมแล้ว เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ ERW จะฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ 3Q64F เป็นต้นไป ในขณะที่คาดว่าโรงแรมแบรนด์ Hop Inn จะ outperform โดยมี occupancy อยู่ที่ 60% ในปี 2564F เมื่อเทียบกับของโรงแรมประเภท non-budget ซึ่งคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 17%
คาดว่าสัดส่วน D/E ปี นี้จะอยู่ที่ 2.4x
หลังจากที่ปรับลดประมาณการกำไรลงแล้ว เราคาดว่าสัดส่วน D/E ของ ERW (ไม่รวมผลจากการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS 16) ปีนี้จะอยู่ที่ 2.4x เกือบชนเพดาน debt covenant ที่ 2.5x อย่างไรก็ตาม ERW มีความคืบหน้าในการขอยกเว้นการทดสอบ debt covenant ในปี 2564F ซึ่งน่าจะช่วยคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ยอดหนี้จะสูงเกิน debt covenant ไปได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ เมื่อมองต่อไปในอนาคต เราคิดว่าสัดส่วน D/E น่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 2.2x ตั้งแต่ปี 2565F เป็นต้นไปตามการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมรวมถึงฐานทุนที่เพิ่มขึ้น
Valuation & Action
เนื่องจากบริษัทกำหนดราคาขายหุ้น Right Offering ไว้น่าสนใจที่ 1.00 บาท/หุ้น (สัดส่วน 1.25:1 และกำหนดขึ้น XR วันที่ 11 พฤษภาคม 2564) เราจึงยังคงคำแนะนำ ถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายแบบ fully diluted ที่ 3.30 บาท อิงจาก EV/EBITDA ปี 2565F ที่ 15.5x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +0.5 S.D. ทั้งนี้ เราได้ re-rate EV/EBITDA จากเดิมที่อิงจากค่าเฉลี่ยระยะยาว +0.25 S.D.
Risks
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำเกินคาด