เมอร์ค สบช่องกัญชา-กัญชงบูม เสิร์ฟอุปกรณ์ ตรวจสารซีบีดี เจาะเอกชน
นับถอยหลังที่ประเทศไทยจะเห็นพืชกัญชา-กัญชง ไปอยู่ในอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลาดก็คึกคักมากขึ้น เพราะหากรายใดก้าวสู่ตลาดได้ก่อน ย่อมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
แม้โควิด-19 ระบาดจะกระทบการจัดอีเวนท์ แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง “เมอร์ค” ผู้ดำเนินธุรกิจยา เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ทางนวัตกรรม ไม่พลาดกระแสพืชกัญชา-กัญชง เพราะบริษัทมีการทำตลาดเคมีภัณฑ์ วัสดุ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์สารสกัด กัญชง-กัญชา เป็นทุนเดิมมา 2-3 ปีแล้ว เพื่อป้อนลูกค้าภาครัฐ ล่าสุดจัดสัมมนาออนไลน์ Cannabis Testing The Series EP1 ไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับ กัญชงและกัญชา พร้อมชี้ทิศทางธุรกิจการใช้สารสกัดจากกัญชงและกัญชาในระดับอุตสาหกรรม ขานรับเทรนด์ใหญ่ที่ทุกอุตสาหกรรมพลาดไม่ได้
ประเดิมความรู้พื้นฐานจาก รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ระบุว่าสาร CBD (Cannabidiol) สารแคนนาบิไดออล เป็นที่นิยมทั่วโลก ไม่ว่าะเป็นสหรัฐ ยุโรป ซึ่งถูกนำไปเป็นส่วนผสมสินค้าทั้งอาหาร ละเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ฯ เทรนด์ดังกล่าวมาถึงไทยแล้ว แต่การเห็นสินค้าทำตลาดคาดว่าจะเป็นช่วงปลายปี โดยสินค้าที่จะได้รับความนิยมไม่ต่างจากเทรนด์โลก
ทั้งนี้ 5 ปีแรก ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการอย่างมาก เนื่องจากกฏหมายเอื้อให้สินค้าไทยได้แจ้งเกิด หลังจากนั้นจะเปิดทางให้สินค้าต่างแดนมาแข่งขันได้ แต่การทำตลาดไม่ง่าย เพราะสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องตระหนักคือ “ปริมาณสารซีบีดี” ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ ต้องเป๊ะตามกฏหมาย จึงต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณสารกสัดกัญชง-กัญชาอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกินกฏหมายกำหนด เช่น มีสารซีบีดีไม่เกิน 0.2%
หากผลิตสารซีบีดีได้มาตรฐานตามกฏหมาย ไม่เพียงแต่ทำตลาดในไทย ยังเพิ่มโอกาสส่งออกด้วย อย่างญี่ปุ่น เป็นตลาดซีบีดีใหญ่สุดในเอเชีย แต่การอยู่ในสินค้าต้องเป็นซีบีดี 0% หรือ Free CBD ซึ่งต้องการ 50 ตันต่อเดือน เพิ่มโอกาสให้ซีบีดีจากไทยได้
เมื่อต้องคุมเข้มปริมาณสารซีบีดีให้ตรงตามกฏหมากำหนด จิรพันธ์ หล่อตระกูลชัย ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สารมาตรฐานในห้องปฏิบัติการ บริษัท เมอร์ค จำกัด จึงย้ำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของเมอร์ค ที่มีบริการครบครันทั้งเคมีภัณฑ์ วัสดุ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์สารสกัด กัญชง-กัญชา เดิมบริษัททำตลาดกับลูกค้าภาครัฐ แต่ปัจจุบันโอกาสเปิดกว้าง จึงเดินหน้าขยายตลาดสู่ลูกค้าภาคเอกชน
“2 ปีที่ผ่านมา เราโฟกัสลูกค้าราชการ แต่จากนี้ไปจะมุ่งเจาะลูกค้าเอกชน ไม่ว่าจะเป็นหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เพราะทุกรายต่างมีการพัฒนาสินค้าที่มีส่วนผสมพืชกัญชา-กัญชง และเอกชนมีเงินทุนสูง ทีมงานพร้อม เราจึงพร้อมสนับสนุนทั้งงานตรวจวิเคราะห์ ซัพพลายอุปกรณ์ และองค์ความรู้การวิเคราะห์สารซีบีดี ทีเอชซี”
ทั้งนี้ เป้าหมาย 1-2 ปี คาดว่าจะสร้างสัดส่วนลูกค้าเอกชนเป็น 80-90% โดยคาดการณ์ธุรกิจที่เกี่ยวกับกัญชา-กัญชงจะเติบโตหลัก 100%
“สิ่งสำคัญที่ลูกค้าจะเข้ามาทำตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พืชกัญชา-กัญชง คือเรื่องข้อกฏหมาย เพราะที่ผ่านมาภาครัฐมีการออกประกาศกระทรวงหลายฉบับ จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งปกติบริษัทที่วิจัย พัฒนาสินค้าจะมีนักเคมีเก่งๆ แต่ต้องดูเรื่องกฏหมายด้วย”
วัฒนพงศ์ สิทธิเสรี ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ด้านโครมาโทรกราฟี บริษัท เมอร์ค จำกัด กล่าวว่า วิธีการตรวจวัดปริมาณสารสกัดจากซีบีดี ทางเมอร์ค มีการนำเข้าเคมีภัณฑ์และอุปกรณ์ในการตรวจวัดปริมาณสารให้สอดรับกับกลุ่มผู้ประกอบการ และแบ่งการตรวจสอบเป็น 3 ระดับคือ ระดับง่าย โดยใช้วิธีโครมาโทกราฟีแบบผิวบาง หรือ TLC) ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่าย สะดวก และประหยัด ไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่เงินทุนไม่สูงมาก หรือขนาดเล็ก ระดับกลาง เป็นการตรวจวัดปริมาณสารโดยวิธีโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูงหรือHPLC เป็นวิธีการที่ตรงตามมาตรฐานห้องปฏิบัติการ
ระดับสูง เป็นการตรวจวัดปริมาณสารด้วยวิธีโครมาโทกราฟีของเหลวที่ต่อกับเครื่องวิเคราะห์มวลสาร หรือLCMS เป็นวิธีตรวจวัดปริมาณสารขั้นสูง เหมาะสำหรับห้องปฏิบัติการขนาดใหญ่ ให้ผลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสูงและน่าเชื่อถือ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ทั้งนี้ การทำตลาดเบื้องต้น บริษัทยังจัดโปรโมชั่นลดราคา 40% เพื่อดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการ
สำหรับพืชกัญชา-กัญชงมีมูลค่าสูงมากสุดชนิดหนึ่งของโลก แต่มีการใช้เพื่อการแพทย์ราว 60% และใช้เพื่อการสันทนาการ 40% ส่วนในไทยคาดมูลค่าตลาดกัญชาปี 2564 อยู่ที่ราว3,600-7,200 ล้านบาท