เปิดอาณาจักร ‘อีลอน มัสก์’ 2024 กับ 6 บริษัท มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
เปิดอาณาจักร “อีลอน มัสก์” Elon Musk มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพของ ‘ทรัมป์’ ซึ่งมีการคาดการ์ว่าทั้ง 6 บริษัทนี้จะได้ประโยชน์
“อีลอน มัสก์” Elon Musk มหาเศรษฐีชาวสหรัฐอเมริกา เจ้าของยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้าเทสลา และอุตสาหกรรมอวกาศอย่าง สเปซเอ็กซ์ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำในหน่วยงานที่จะทำหน้าที่ เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารรัฐบาลชุดใหม่ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หรือมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า "Department of Government Efficiency" ย่อว่า Doge
ทุกสำนักข่าว นักวิเคราะห์มองเป็นเสียงเดียวกันว่า การได้รับชัยชนะของทรัมป์ย่อมมีผลกระทบต่อธุรกิจของมักส์ในเชิงบวกอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของทรัมป์และสามารถแต่งตั้งให้มัสก์เป็นหัวหน้าคณะกรรมการด้านประสิทธิภาพสำเร็จ อาจส่งผลให้การตรวจสอบธุรกิจเทคโนโลยีของมัสก์โดยคณะบริหารชุดเดิมยุติลง
วันนี้กรุงเทพธุรกิจจะพามาเปิด อาณาจักรของ “Elon Musk” ในปี 2024 นี้ เข้าเป็นเจ้าของบริษัทใดบ้าง ตามรายงานของนิตยสาร Forbes ล่าสุดทรัพย์สินสุทธิของมัสก์อยู่ที่ประมาณ 3 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้เขาได้ครองตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ตอนนี้มี 6 บริษัทที่มัสก์เป็นเจ้าของ ซึ่งรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
1.Tesla
อีลอน มัสก์ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะซีอีโอของ Tesla “เทสลา” บริษัทยานยนต์ไฟฟ้าที่ปฏิวัติวงการและมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสะอาด เทสลาถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2003 โดย มาร์ติน เอเบอร์ฮาร์ด และ มาร์ค ทาร์เพนนิง และอีลอน มัสก์ได้เข้ามาร่วมทีมในฐานะนักลงทุนรายใหญ่และซีอีโอในปี 2004
เทสลา ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้หุ้นของบริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเคยทำสถิติมูลค่าตลาดสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการธุรกิจทั่วโลก
ณ เดือนพฤศจิกายน 2024 มูลค่าตลาดของเทสลายังคงสูงมาก โดยอยู่ที่ประมาณ 8.6 แสนล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความน่าสนใจของบริษัทในฐานะผู้นำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
2.SpaceX
SpaceX (สเปซเอ็กซ์) คือบริษัทเอกชนด้านอวกาศที่ก่อตั้งขึ้นโดย อีลอน มัสก์ ในปี 2002 ด้วยวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ในการลดต้นทุนการเดินทางในอวกาศ และสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร ภายในปี 2050 บริษัทได้ปฏิวัติวงการอวกาศด้วยเทคโนโลยีจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ทำให้การเดินทางอวกาศมีต้นทุนถูกลงอย่างมาก
ปัจจุบัน SpaceX มีมูลค่าบริษัทสูงถึงเกือบ 2.1 แสนล้านดอลลาร์และครองส่วนแบ่งตลาดการให้บริการปล่อยดาวเทียมเชิงพาณิชย์เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นอกจากนี้ SpaceX ยังมีโครงการ Starlink ซึ่งเป็นระบบอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่ครอบคลุมทั่วโลก โดยมีดาวเทียมจำนวนมากโคจรอยู่รอบโลกเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
หนึ่งในโครงการที่สำคัญที่สุดของ SpaceX คือ Starship ซึ่งเป็นจรวดขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อการเดินทางไปดวงจันทร์และดาวอังคาร Starship มีศักยภาพในการบรรทุกผู้โดยสารและสินค้าจำนวนมาก ทำให้การเดินทางไปยังอวกาศเป็นไปได้ในวงกว้างมากขึ้น
ล่าสุด SpaceX กำลังพิจารณาการขายหุ้นภายในบริษัท ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าของบริษัทเป็นประมาณ 2.5 แสนล้านดอลลาร์ การระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงการต่างๆ ของ SpaceX ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
3.X (เดิมชื่อ Twitter)
มัสก์ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียทั่วโลก เมื่อในเดือนตุลาคมปี 2022 เขาตัดสินใจซื้อ Twitter ด้วยมูลค่าสูงถึง 44,000 ล้านดอลลาร์ และเปลี่ยนชื่อแพลตฟอร์มให้เป็น X เพื่อสะท้อนวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่าการเป็นเพียงแค่โซเชียลมีเดียทั่วไป
หลังจากการเข้าซื้อกิจการ เพียงระยะเวลาไม่ถึงสองปี มูลค่าของ Twitter หรือ X ได้ลดลงอย่างรวดเร็วถึง 80% เหลือเพียง 9,400 ล้านดอลลาร์ ตามการประเมินมูลค่าของ Fidelity บริษัทลงทุนขนาดใหญ่ การลดลงของมูลค่าครั้งนี้อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายของแพลตฟอร์มอย่างรวดเร็ว การสูญเสียผู้ใช้งานบางส่วน และสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
หนึ่งในนโยบายที่โดดเด่นของ Musk คือการเปิดโอกาสให้บัญชีที่ถูกระงับกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ซึ่งรวมถึงบัญชีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การตัดสินใจครั้งนี้สร้างทั้งเสียงวิจารณ์และเสียงสนับสนุนในวงกว้าง
นอกจากนี้ มัสก์ยังมีแผนที่จะพัฒนา X ให้เป็นมากกว่าโซเชียลมีเดีย โดยมีเป้าหมายที่จะรวมเอาฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามา เช่น การส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที (instant messaging) และการชำระเงินผ่านมือถือ (mobile payments) ซึ่งจะทำให้ X กลายเป็นแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
4.Neuralink
นิวราลิงค์ (Neuralink) บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีประสาทที่ก่อตั้งขึ้นโดย อีลอน มัสก์ ในปี 2016 ได้สร้างความฮือฮาและความสนใจจากทั่วโลกด้วยวิสัยทัศน์ที่จะปฏิวัติวงการเทคโนโลยีและการแพทย์ ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อสมองของมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
ความก้าวหน้าที่สำคัญ เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2023 เมื่อ Neuralink ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ให้ดำเนินการทดลองทางคลินิกในมนุษย์เป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสู่การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริง และในเดือนสิงหาคม 2024 มีรายงานว่ามีผู้ป่วยอย่างน้อย 2 รายได้รับการปลูกถ่ายชิป Neuralink แล้ว โดยผู้ป่วยรายล่าสุดเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ไขสันหลังจากอุบัติเหตุการดำน้ำ
เป้าหมายหลักของ Neuralink คือการพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะทางสมองและระบบประสาท เช่น ผู้ป่วยอัมพาต หรือผู้ป่วยโรคพาร์กินสอน โดยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ด้วยความคิด เช่น คอมพิวเตอร์ หรือแขนกลเทียม นอกจากนี้ เทคโนโลยีของ Neuralink ยังมีศักยภาพในการรักษาโรคต่างๆ ได้อีกมากมายในอนาคต
อย่างไรก็ตาม Neuralink ยังคงเป็นบริษัทเอกชน และหุ้นของบริษัทยังไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปซื้อขายได้ เนื่องจากยังไม่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ข้อมูลทางการเงินของบริษัทส่วนใหญ่ยังคงเป็นความลับ แต่มีรายงานว่าในเดือนกรกฎาคม 2024 Neuralink มีมูลค่าประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์
5.The Boring Company
อีลอน มัสก์ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ SpaceX และ Tesla เขาได้ก่อตั้ง “บริษัท บอร์ริ่ง” The Boring Company ขึ้นในปี 2016 ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยการสร้างระบบขนส่งใต้ดินที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน The Boring Company มีมูลค่าประมาณ 5.7 พันล้านดอลลาร์
เป้าหมายหลัก ของ The Boring Company คือการลดต้นทุนและระยะเวลาในการขุดอุโมงค์ เพื่อให้การสร้างระบบขนส่งใต้ดินเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น บริษัทได้พัฒนากระบวนการขุดเจาะอุโมงค์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ทำให้สามารถขุดอุโมงค์ได้เร็วกว่าและประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าวิธีการแบบเดิมๆ
โครงการสำคัญของ The Boring Company มีทั้ง อุโมงค์ R&D เป็นอุโมงค์ทดลองที่สร้างขึ้นเพื่อทดสอบเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะและระบบขนส่งใต้ดิน, ลู่วิ่งทดสอบสำหรับระบบขนส่ง Hyperloop ซึ่งเป็นระบบขนส่งความเร็วสูงที่ใช้ท่อสุญญากาศ, อุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างศูนย์การประชุมลาสเวกัสกับสถานที่ต่างๆ ในเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมงานและ สถานี Vegas Loop โครงการขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งจะสร้างระบบขนส่งใต้ดินเชื่อมต่อระหว่างลาสเวกัสและลอสแองเจลิส ระยะทางกว่า 68 ไมล์
6.xAI
ในปี 2023 มัสก์ได้ประกาศเปิดตัวบริษัทปัญญาประดิษฐ์แห่งใหม่ xAI อาจแข่งขันกับบริษัทต่างๆ เช่น OpenAI (ซึ่งมัสก์ร่วมก่อตั้งแต่ลาออกในปี 2018), Google และ Anthropic ซึ่งอยู่เบื้องหลังแชทบอตชั้นนำอย่าง ChatGPT, Bard และ Claude เป้าหมายของมัสก์ในการประกาศเกี่ยวกับ xAI คือ "เพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของจักรวาล"
ล่าสุด บริษัท xAI ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้าน Generative AI กำลังระดมทุนได้สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์
หนึ่งในผลงานเด่นของ xAI คือแชทบ็อต Grok ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง "The Hitchhiker's Guide to the Galaxy" Grok ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลและมีความสามารถในการเข้าใจภาษาธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถตอบคำถามและสนทนาโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยในช่วงแรก Grok ได้ถูกทดลองใช้ฟรีกับผู้ใช้บางส่วนในบางภูมิภาค ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสำหรับสมาชิก X Premium และ Premium Plus เท่านั้น