'โมบายแบงกิ้ง' โตรับอานิสงส์โควิด

'โมบายแบงกิ้ง' โตรับอานิสงส์โควิด

เปิดผลสำรวจ 'โมบายแบงกิ้ง' โตรับอานิสงส์โควิด

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้การทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงกิ้งและอีวอลเล็ต มีการเร่งการเติบโตสูงขึ้น สะท้อนจากผลสำรวจของ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ระหว่างวันที่ 26-30 เม.ย.ที่ผ่านมา

พบว่า ผู้บริโภคไทยโดยภาพรวมมีการโอนเงินและชำระค่าสินค้าและบริการผ่านโมบายแบงกิ้งฯ อยู่ที่ 19 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มมากกว่าการใช้งานในช่วงการระบาดระลอกแรกที่มีอัตราการใช้งานอยู่ที่ 17 ครั้งต่อสัปดาห์

ขณะที่มีผู้บริโภคกว่าร้อยละ 53.9 มีการใช้งานที่มากขึ้น ซึ่งมาจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ที่จำกัด อาทิ พนักงานบริษัทขนาดใหญ่ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ยังเห็นการใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในจังหวะของการเวิร์คฟรอมโฮมและการลดการเดินทาง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการแพร่ระบาดของโควิด

ส่วนผู้บริโภคที่ซื้อเพิ่มขึ้นนี้มียอดการซื้อต่อครั้งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจครั้งก่อน 350 บาท โดยยังคงเน้นการใช้จ่ายไปที่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และสินค้าแฟชั่น เหมือนดังการสำรวจรอบก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ผลกระทบด้านรายได้ที่ลดลง พบว่า มีผู้บริโภคราวร้อยละ 8.3 ใช้จ่ายผ่านโมบายแบงกิ้งฯลดลง โดยมียอดซื้อต่อครั้งลดลง 600 บาท

162095657916