BEM - ซื้อ (21 พ.ค.64)

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ BEM โดยปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 9.50 บาท (จากเดิม 10.50 บาท) หลังจากที่ปรับลดประมาณการกำไรลง ในฐานะที่เป็นธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน จึงหนีไม่พ้นผลกระทบจาก COVID-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระลอกล่าสุด ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการจากปี 2021 ลงเฉลี่ย 25% ซึ่งตามประมาณการใหม่ เรายังคงคาดว่าบริษัทจะทำสถิติกำไรสูงสุดใหม่ในปี 2022 ซึ่งเลื่อนออกไปจากเดิมที่คาดไว้ในปีนี้

 

ผู้โดยสารรถใต้ดิน และจำนวนรถใช้ทางด่วนถูกกระทบจาก COVID-19 เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น

เช่นเดียวกับปีที่แล้ว BEM หนีไม่พ้นผลกระทบจาก COVID-19 แม้ว่าจะอยู่ในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานซึ่งถือเป็นธุรกิจประเภท defensive แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจาก COVID-19 ระบาดสองระลอกในปีนี้ คือช่วงต้นเดือนมกราคม และต้นเดือนเมษายน BEM จึงถูกกระทบไปด้วย โดยปริมาณรถใช้ทางด่วนใน 1Q21 ลดลง 13% yoy ในขณะที่จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินลดลงถึง 35% yoy ดังนั้น เราจึงคาดว่าการระบาดรอบใหม่ในเดือนเมษายนจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานใน 2Q21 อย่างแน่นอน  ซึ่งจากข้อมูลของทางบริษัท ปริมาณรถใช้ทางด่วนลดลง 25% และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินลดลง 46% เราเชื่อว่าตัวเลขทั้งสองตัวมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม และอาจจะยาวต่อไปถึงเดือนมิถุนายนด้วยเนื่องจากจากยังมีการใช้นโยบายให้ทำงานจากที่บ้าน และยังคงปิดโรงเรียนต่อไป

 

ปรับลดประมาณการกำไรจากปี 2021 ลง 25%

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไปลงเฉลี่ย 25% เพื่อสะท้อนถึงปริมาณรถใช้ทางด่วน และผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินที่ต่ำกว่าที่คาดไว้จากการระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะในระลอกล่าสุดที่เริ่มระบาดในต้นเดือนเมษายน ทั้งนี้ เราใช้สมมติฐานว่าปริมาณการจราจรในปี 2021 จะเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 2% yoy เท่านั้น จากเดิมที่ 25% ซึ่งจะทำให้รายได้ปีนี้ต่ำกว่ารายได้ปี 2019 อยู่ 15% แต่เราคาดว่ารายได้จะกลับไปที่ระดับของปี 2019 ได้ในปี 2022  เมื่อสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น และประชาชนเริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ โดยกลับเข้าไปทำงานในออฟฟิศ และโรงเรียนเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง ทั้งนี้ ตามประมาณการใหม่ของเราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q21 จะใกล้เคียงกับใน 1Q21 ก่อนที่จะเริ่มกลับมาโตใหม่ตั้งแต่ 3Q21 เป็นต้นไป

 

คงคำแนะนำซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 9.50 บาท จาก 10.50 บาท

เรายังคงคำแนะนำซื้อ BEM แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 9.50 บาท (จากเดิมที่ 10.50 บาท) หลังจากที่ปรับลดประมาณการลง เราพบว่าราคาหุ้นถูกกกดดันมาระยะหนึ่งแล้วจากผลประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และกรอบเวลาที่ไม่ชัดเจนของการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม แต่เราเชื่อว่าผลประกอบการทที่ถูกกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดเป็นเพียงการสะดุดช่วงสั้น ๆ เท่านั้น ส่วนภาพในระยะยาว เรายังคงเชื่อว่าธุรกิจขนส่งมวลชนจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จากประสิทธิภาพในการเดินทางในเขตเมือง และโครงข่ายรถไฟฟ้าที่เปิดบริการเพิ่มขึ้น