หอการค้าฯชูแผนตะวันออก แก้เหลื่อมล้ำ-กระจายรายได้
“ความเจริญ”ไม่สามารถวัดได้จากตัวเลขจีดีพี หรือ รายได้เฉลี่ยต่อหัวเพียงอย่างเดียว เพราะในรายละเอียดเชิงลึกจะพบว่าตัวเลขรายได้ที่สูงมากๆในบางพื้นที่อาจไม่ได้สะท้อนความเป็นอยู่ที่ดี
ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าความมั่งคั่งนั้นๆไม่อยู่ในสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำ ซึ่งพื้นที่ภาคตะวันออกก็กำลังอยู่บนทางแยกแห่งการพัฒนานี้เช่นกัน
ปรัชญา สมะลาภา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย เพราะเป็นที่ตั้งของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมชั้นนำ และยังเป็นพื้นที่การเกษตรที่สร้างรายได้สูง ดังนั้นหอการค้าไทยจึงได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาภาคตะวันออก เพื่อดึงดักยภาพมาใช้ได้อย่างเต็มที่และสมดุล
แนวทางหลักที่หอการค้าไทยจะเข้าไปช่วยสนับสนุนภาคตะวันออกในแผน 4 ปี นับจากนี้ คือการกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งจากการพิจารณารายได้ครัวเรือนในภาคตะวันออกทั้ง 8 จังหวัด พบว่าจังหวัดจันทบุรี เป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อครัวเรือนสูงที่สุด เพราะส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรทำสวนผลไม้ที่มีมูลค่าสูง และที่ผ่านมาหอการค้าไทยได้เข้าไปก่อตั้งโครงการมหานครผลไม้ ที่ได้ติดตลาดไปแล้วสร้างรายได้เพิ่มในภาคการเกษตรเป็นจำนวนมาก
ส่วนจังหวัดที่มีภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น จังหวัดระยอง และชลบุรี กลับมีรายได้ครัวเรือนไม่สูงมากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นแรงงานในโรงงานที่มีรายได้ประจำไม่สูงนัก และยังมีบางจังหวัดที่ยังคงพึ่งพาการเกษตรที่มีรายได้ต่ำ และในอนาคตหากมีการบริหารจัดการที่ไม่ดี ก็จะยิ่งมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ
“คนภายนอกอาจจะมองว่าจังหวัดระยอง และชลบุรีจะมีรายได้ครัวเรือนสูง เพราะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หนาแน่น และมีแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ แต่ในความเป็นจริงกลับมีรายได้ต่ำกว่าจังหวัดจันทบุรีอยู่มาก เพราะในภาคการเกษตรจะกระจายรายได้ไปสู่ครัวเรือนได้สูงกว่าภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากในโรงงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มีรายได้ไม่สูงมากนัก ดังนั้นควรจะต้องผลักดันให้เกิดการกระจายรายได้ในทุกระดับไปสู่คนส่วนใหญ่ให้ได้มากที่สุด”
ทั้งนี้ ในอนาคตความเหลือล้ำในภาคอุตสาหกรรมจะมีสูงขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมจะมุ่งเทคโนโลยี 4.0 ใช้หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้มีแรงงานเป็นจำนวนมากต้องตกงาน โดยหอการค้าไทยจะเข้าไปช่วยรีสกิล และอัพสกิล แรงงานส่วนหนึ่งให้ปรับตัวทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ได้ และมีรายได้สูงขึ้น รวมทั้งมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมชั้นสูง
ส่วนแรงงานที่ออกจากโรงงาน ก็จะต้องเข้าไปช่วยปรับตัวสู่อาชีพอิสระใหม่ ๆ ทั้งในภาคการเกษตร และธุรกิจส่วนตัว ซึ่งระบบแฟรนไชส์ก็เป็นระบบหนึ่งที่น่าสนใจ หอการค้าไทยมีแผนจะไปประสานงานกับกลุ่มธุรกิจแฟรนด์ไชส์ จัดทำข้อเสนอที่ดีให้กับแรงงานที่ต้องการออกจากภาคอุตสาหกรรม
เนื่องจากแฟรนไชส์เหล่านี้มีระบบบริหารจัดการที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ฝึกอบรมอีกเล็กน้อย แรงงานที่ออกจากภาคอุตสาหกรรมก็จะมีธุรกิจส่วนตัวได้ รวมทั้งส่งเสริมการทำเกษตรและแปรรูปขั้นต้นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งจะช่วยกระจายรายได้ที่ดีมาก
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะกระจายรายได้จากธุรกิจขนาดใหญ่ในอีอีซี ไปสู่เอสเอ็มอีในพื้นที่ โดยจะเริ่มจากการผลักดันให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย๋กำหนดเป้าหมายการซื้อสินค้าและชิ้นส่วนจากเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเข้าไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ในการผลักดันให้ธุรกิจขนาดใหญ่ในอีอีซี ใช้ซัพพลายเชนในพื้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะมีมาตรการจูงใจทั้งด้านภาษี และอื่น ๆ เข้ามาช่วยเสริม
ปรัชญา กล่าวว่า ในส่วนมาตรการระยะสั้น เพื่อฟื้นฟูธุกิจท่องเที่ยวในอีอีซี ที่ในขณะนี้ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องปิดกิจการชั่วคราว ซึ่งจะต้องดูภูเก็ตโมเดล ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากประสบผลสำเร็จ ก็จะนำมาปรับใช้กับแหล่งท่องเที่ยวในพัทยา และระยอง แต่จะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ต้องขึ้นกับการฉีดวัคซีนเป็นหลัก
“ในช่วงที่ธุรกิจท่องเที่ยวต้องปิดกิจการชั่วคราว ทำให้บุคลากรส่วนหนึ่งต้องกระจัดกระจายไปทำงานที่อื่น ซึ่งไม่แน่ใจว่าหลังจากเปิดกิจการแล้วแรงงานเหล่านี้จะกลับมาทำงานตามเดิมได้หรือไม่ หากบุคลากรเหล่านี้ไม่กลับมาก็จะกลับมาเปิดกิจการใหม่ได้ลำบาก เพราะในธุรกิจบริการบุคลากรที่มีประสบการณ์เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด หากไม่มีบุคลากรก็อาจจะต้องปิดกิจการถาวร”
นอกจากนี้ แม้ธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาได้ แต่จำนวนโรงแรมเกินความต้องการบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็ต้องเข้ามาปรับโรงแรมส่วนนี้ไปในธุรกิจอื่น เช่น การทำอพาร์ทเม้นท์ รองรับแรงงานที่จะเข้ามาทำงานในอีอีซีเพิ่มขึ้น หรือศูนย์ดูแลคนชราระยะยาว ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องลงทุนปรับปรุงห้องพัก พื้นที่ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอยู่บ้าง เช่น ขนาดประตู อุปกรณ์อำนวยความสะดวกผู้สูงอายุ และพื้นที่ส่วนกลาง แต่ก็คุ้มค่าในระยะยยาว ซึ่งชาวต่างชาติโดยเฉพาะจากญี่ปุ่น ที่ต้องการชุมชนผู้สูงอายุที่ได้มาตรฐาน และสามารถไปท่องเที่ยวได้ง่าย ซึ่งในภาคตะวันออกมีความเหมาะสมมาก มีแหล่งที่พักเชิงธรรมชาติที่สวยงามทั้งทะเล และชุมชนเกษตรที่สงบในจังหวัดฉะเชิงเทรา และที่อื่น ๆ รวมทั้งอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพ ใกล้สนามบิน โรงพยาบาลชั้นนำ มีรถไฟความเร็วสูงผ่าน และมีอาหารอร่อยปลอดภัย
“ธุรกิจบริการผู้สูงอายุในขณะนี้ตลาดมีความต้องการสูงมากทั้งผู้สูงอายุในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้อง และได้มาตรฐาน จะสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ชุมชน และธุรกิจต่อเนื่องได้ในระยะยาว และเป็นธุรกิจที่กระจายรายได้ที่ดี ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแผนส่งเสริมในภาคตะวันออกอีกด้วย”
หลังจากนี้ จะจัดเวิร์คช็อประดมความคิดจากภาคเอกชนในพื้นที่ และภาครัฐ เพื่อจัดทำแผนในรายละเอียด เสนอให้กับรัฐบาล และร่วมกันทำงานต่อไป เพราะแผนการดำเนินจากจะต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่และจะต้องแก้ไขกฎระเบียบบางด้าน เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว