เลือกเล่นรายตัว (9 มิ.ย.64)
ความกังวลเงินเฟ้อยังคงอยู่โดยต้องติดตามตัวเลข CPI สหรัฐเดือนพ.ค.ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ ( 10 มิ.ย.) ที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 4.7%
ตลาดหุ้นวานนี้
SET ปิดผันผวนกรอบแคบ ที่ 1,612.88 จุด +0.29 (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 1 แสนลบ. เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ แม้จะมีแรงขายหุ้นกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรฯ แต่ก็มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ถ่านหิน และกลุ่มเดินเรือช่วยประคองดัชนี
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
คาด SET แกว่งตัว 1,605 – 1,625 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงตาม Demand ที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงความคาดหวังเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังการฉีดวัคซีน Covid-19 อย่างไรก็ตาม ความกังวลเงินเฟ้อยังคงอยู่โดยต้องติดตามตัวเลข CPI สหรัฐเดือนพ.ค.ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ ( 10 มิ.ย.) ที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 4.7% ซึ่งจะส่งผลให้ Fund flow ผันผวนและกดดันต่อดัชนี
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- Global paly ตามเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว PTT PTTEP PTTGC TOP IVL BANPU
- BCH CHG BDMS MINT CENTEL ERW AOT CPALL HMPRO CPN CRC AAV อานิสงส์การเปิดเมือง
- คาดการณ์หุ้นเข้า SET50 (KCE, IRPC, STA, STGT) SET100 (AAV, BLA, ICHI, PSL, PTL, SINGER, STARK, STGT, SYNEX) ประกาศช่วงกลางเดือน มิ.ย.
หุ้นแนะนำวันนี้
- PTTEP (ปิด 121 ซื้อ/เป้า 160 บาท) ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบบวกแรง และคาดกำไรสุทธิใน Q2/64 จะเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ปตท. เพราะไม่มีปัญหาเรื่อง Stock gain/loss ให้กังวลเหมือนกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรฯ
- CBG (ปิด 133 ซื้อ/เป้า 140 บาท) แนวโน้มกำไร 2Q21 โตแรงจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายกว่า 330%yoy จาก 60 ล้านหน่วยในปี 20 เป็น 200 ล้านหน่วย ขณะที่ยอดขายในพม่าเพิ่มขึ้นทำ New high แม้จะมีเหตุรัฐประหาร
บทวิเคราะห์วันนี้
AMATA (ปิด 19.1 ซื้อ/เป้า 24), AOT (ปิด 64.75 ปรับลดเป็นถือ/เป้าใหม่ 68 เดิม 77)
ประเด็นสำคัญวันนี้
- (+) เวิลด์แบงก์ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกแต่ลดคาดการณ์ GDP ของไทย: ธนาคารโลกเปิดเผยรายงานวิเคราะห์แนวโน้ม ศก.โลก โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกขึ้นเป็นขยายตัว 5.6% เดิม 4.1% นับเป็นการฟื้นตัวแกร่งสุดในรอบ 80 ปี ส่วนใหญ่มาจากการฟื้นตัวรวดเร็วของ ศก. จีนและสหรัฐ ส่วนกลุ่มประเทศกำลังพัฒนายังฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะไทยเวิลด์แบงก์ลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้ลงเป็น 2.2% จากเดิม 4%
- (+) น้ำมันดิบ WTI พุ่งแต่ 70$/bbl สูงสุดในรอบ 31 เดือน: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.82$/bbl (+1.2%) ปิดที่ 70.05$/bbl ตอบรับเวิลด์แบงก์ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกทั้งในปีนี้และปีหน้าซึ่งจะช่วยหนุนดีมานด์ของพลังงานทั่วโลกให้กลับมาฟื้นตัว อย่างไรก็ตามนักลงทุนบางส่วนยังชะลอลงทุนเพื่อรอดูการเจรจาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐในวันพรุ่งนี้
- (+/-) พรุ่งนี้ติดตาม ECB meeting และ รายงานเงินเฟ้อของสหรัฐ: คงมุมมองเดิมคาด ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตรหรือ QE ตามเดิม ส่วนเงินเฟ้อสหรัฐเบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือน พ.ค.จะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.7% จาก 4.2% ในเดือน เม.ย.ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ 2% แล้วหากตัวเลขยังออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดอาจจะกดดันให้ตลาดผันผวนจากความกังวลที่ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย