CPF - ซื้อ (12 ก.ค.64)
ไม่ใช่เรื่องหมูๆ
คาดกำไร 2Q21F ที่ 2.7 พันลบ. (-55% yoy, -61% qoq) จากราคาสุกรต่ำลง แต่เราคาดว่าราคาสุกรจะฟื้นตัวหลังเกษตรกรรายย่อยเร่งขายสุกรเพื่อหลีกเลี่ยงโรคระบาดในสุกรครบตามที่ต้องการแล้ว คงคำแนะนำ ซื้อ และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 36.50 บาท (จากเดิม 43.50 บาท)
กำไร 2Q อาจลดลงแรงผลจากราคาสุกรที่ต่ำลง
เราคาดรายได้ 2Q จะทรงตัว qoq ที่ 1.2 แสนลบ. (-15% yoy, +2% qoq) เป็นผลจากรายได้การขายของธุรกิจสุกรที่ต่ำลง แต่ได้รายได้การส่งออกไก่เนื้อช่วยชดเชย อย่างไรก็ตาม เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นลดลงสู่ 17.0% จาก 19.9% ใน 1Q เป็นผลจากราคาสุกรลดลง 4% qoq ในไทย, 12% qoq ในเวียดนามและ 38% qoq ในจีน รวมถึงผลจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น สัดส่วนต้นทุน SG&A ต่อยอดขายทรงตัว qoq ที่ 9.8% ขณะที่เราคาดบริษัทจะมีส่วนแบ่งกำไรจากทั้ง CPALL และ CTI ลดลงที่ 744 ลบ. เทียบกับ 2.0 พันลบ. ใน 1Q นอกจากนี้คาดว่ายังมีผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ (biological losses) 1.0 พันลบ. ทำให้เราคาดกำไร 2Q21F ที่ 2.7 พันลบ. (-55% yoy, -61% qoq)
คาดราคาสุกรจะฟื้นตัวในปลาย 3Q
การล็อคดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นล่าสุดทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและประเทศที่บริษัทดำเนินงานอยู่สะดุดลง รวมทั้งทำให้ความต้องการเนื้อสัตว์ลดลงในช่วงล็อคดาวน์ เราคาดราคาสุกรในไทยและเวียดนามจะฟื้นตัวและกลับยืนที่ระดับ 75 ต่อกก. และ VND70,000ต่อกก. หลังเกษตรกรรายย่อยเร่งขายสุกรเพื่อหลีกเลี่ยงโรคระบาดเพิร์ส (PRRS) ในไทยและโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (ASF) ในเวียดนาม ครบตามที่ต้องการแล้ว
คงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมายใหม่ที่ 36.50 บาทต่อหุ้น (จาก 43.50 บาท)
เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY21F และ FY22F ลง 16% และ 9% เป็น 2.25 หมื่นลบ. และ 2.66 หมื่นลบ. ตามลำดับหลังปรับคาดการณ์กำไรขั้นต้นเป็น 17% จาก 18% ผลจากการปรับสมมติฐานราคาสุกรในเวียดนามลง รวมถึงลดส่วนแบ่งกำไรจากทั้ง CPALL และ CTI เราคงคำแนะนำ ซื้อ CPF จาก (1) ราคาสุกรที่คาดว่าจะฟื้นตัวปลาย 3Q และ (2) ต้นทุนอาหารสัตว์ที่มีแนวโน้มลดลง ล่าสุดราคากากถั่วเหลืองในตลาดโลกลดลงราว 20% จากระดับสูงสุดของปีนี้ เหลือ USD352.5 ต่อตัน ราคาเป้าหมายของเรา 14x FY21F EPS.