'สหกรณ์' ผุด3โครงการใหม่ ภายใต้ข้อตกลงค้าเสรีญี่ปุ่น

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการประชุม คณะอนุกรรมการพิเศษร่วมด้านการเชื่อมโยงท้องถิ่นสู่ท้องถิ่น ภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ( JTEPA) ครั้งที่ 11 กับผู้แทนของกระทรวงเกษตร ประมงและป่าไม้ของญี่ปุ่น ( MAFF) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น ( JICA) และสหภาพสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศญี่ปุ่น (JA-Zenchu)

กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เสนอโครงการความร่วมมือใหม่ 3 โครงการ คือ โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพ  การจัดการภายในโรงสีข้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิตและลดผลกระทบต่อชุมชน โครงการความร่วมมือยกระดับการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโคนมของสหกรณ์ และ โครงการการใช้ประโยชน์เกษตรอัจฉริยะในโรงเรือนผักอินทรีย์ของเกษตรกร

โดยผู้แทนของญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจ โดยเฉพาะโครงการการใช้ประโยชน์เกษตรอัจฉริยะ ในโรงเรือนผักอินทรีย์ของเกษตรกร ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านเกษตรอัจฉริยะของกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมง ของญี่ปุ่น ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นจะได้หารือในรายละเอียดโครงการร่วมกับฝ่ายไทยอีกครั้งผ่านทางสถานทูตญี่ปุ่น

เป้าหมาย คือเกษตรกรสมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการสามารถใช้ประโยชน์และมีกรรมสิทธิ์ในโรงเรือนพร้อมระบบน้ำ ที่ได้รับสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้อย่างถาวร เกิดประโยชน์ในการทำเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง นำความรู้จากการฝึกอบรม ศึกษาดูงาน และเทคโนโลยีระบบอิเล็กทรอนิกส์และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ไปปรับเปลี่ยน วิธีการทำเกษตรในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ มีรายได้ที่มั่นคงและสูงขึ้นมีเครือข่ายในการจำหน่ายสินค้าอาหาร ปลอดภัยที่ยั่งยืนและสามารถเป็นต้นแบบให้เกษตรกรรรายอื่นได้นำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในการทำเกษตรอินทรีย์ เกิดความคุ้มค่ากับงบประมาณในการสนับสนุนโรงเรือนและระบบน้ำ ทำให้ภาครัฐมั่นใจใน การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการตามมาตรการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ของกระทรวงเกษตรฯ  

ส่วนโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการภายในโรงสีข้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิตและลดผลกระทบต่อชุมชน และโครงการความร่วมมือยกระดับการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโคนมของสหกรณ์ มีความสอดคล้องกับภารกิจของJICA ทางญี่ปุ่นจึงขอให้ฝ่ายไทย ยื่นข้อเสนอโครงการผ่านทางกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดย JICA จะมีการสำรวจ Need Survey ไปยัง กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ และฝ่ายญี่ปุ่นจะเข้ามานำเสนอแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการแปรรูปน้ำนมโคให้กับผู้แทนฝ่ายไทยได้รับทราบต่อไป

โดยผลลัพธ์ที่คาดว่าจะทำให้สมาชิกสหกรณ์และบุคลากรสหกรณ์มีองค์ความรู้ในข้อตกลงการเปิดเสรีทางการค้า และมี แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแปรรูปและการตลาดเพื่อลดผลกระทบจากการเปิดการค้าเสรีปฏิบัติจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากกับที่ปรึกษาหรือนักวิชาการจากประเทศญี่ปุ่น และการศึกษาดูงานในองค์กรที่มีการบริหารจัดการการรักษาคุณภาพสินค้าภายใต้โครงการความร่วมมือ และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความแตกต่าง มีอัตลักษณ์เพิ่มช่องทางการตลาดให้มากขึ้น