เปิดอายุผู้ลงทุนพันธบัตร“ยิ่งออมยิ่งได้”ต่ำสุด 3 ปี สูงสุด 96 ปี

ในช่วงที่การลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ การลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาลจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงและมีอายุการลงทุนที่สั้น เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนผู้สูงอายุที่ให้ความสนใจเข้าซื้อจำนวนมาก

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า เมื่อกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)ได้เปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ในรุ่นต่างๆออกมา ต่างเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างล้นหลาม ทุกรุ่นอายุของพันธบัตรสามารถขายหมดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น”ยิ่งออมยิ่งได้”ซึ่งเปิดให้ประชาชนและนิติบุคคลเข้าซื้อในช่วงเดือนก.ค.นี้ สามารถขายหมดในระยะเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน โดยสบน.ได้แบ่งการออกพันธบัตรออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกเป็นรุ่นยิ่งออมยิ่งได้บนวอลเล็ตวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยที่ 1.80%ต่อปี ซื้อได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป วงเงินตั้งแต่ 100 บาท ถึง 10 ล้านบาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนที่สอง เป็นรุ่นยิ่งออมยิ่งได้ วงเงินจำหน่าย 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจำหน่ายผ่าน 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ทั้งในช่องทาง Counter, Internet Banking และ Mobile Banking ของ 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย วงเงินขั้นต่ำ 1 พันบาทและซื้อได้ไม่จำกัดวงเงินซื้อ จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แบ่งเป็นวงเงินและรุ่นอายุที่จำหน่ายดังนี้ 1.ประชาชนทั่วไป วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท จำหน่ายรุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.90% ต่อปี 2.นิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด วงเงิน 5 พันล้านบาท จำหน่ายรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.20%ต่อปี

สำหรับผลการจำหน่ายพันธบัตรพิเศษรุ่นยิ่งออมยิ่งได้บนวอลเล็ตวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ปรากฏว่า สามารถจำหน่ายหมดภายใน 2 ชั่วโมง 45 นาที จำนวนผู้ลงทุนทั้งสิ้น 11,874 คน (13,269 รายการ) วงเงินลงทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 842,176.18 บาท/ราย

โดยเพศหญิงมีการลงทุนมากกว่าเพศชายที่ 65% และ 35% ตามลำดับ การลงทุนมีการกระจายไปยังภูมิภาคมากขึ้นถึง 60% ผู้ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านวอลเล็ต สบม. ส่วนใหญ่มีอาชีพเจ้าของกิจการ/วิชาชีพอิสระ และมีอายุอยู่ในช่วง 50-59 ปี จำนวน 3,098 ราย หรือ 26% ของจำนวนผู้ลงทุนทั้งหมดผู้ลงทุนอายุน้อยที่สุด 15 ปี และผู้ลงทุนอายุมากที่สุด 94 ปี

ทั้งนี้ ผู้ซื้อนิยมลงทุนไม่เกิน 10,000 บาท จำนวน 3,233 ราย คิดเป็น 27% ของจำนวนผู้ลงทุนทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า มีจำนวนผู้ลงทุนที่ซื้อได้ ครั้งละไม่มากสามารถเข้าถึงพันธบัตรออมทรัพย์ได้มากขึ้นกว่าเดิมผ่านช่องทางวอลเล็ต สบม.

ส่วนพันธบัตรยิ่งออมยิ่งได้ที่เปิดขายผ่าน 4 ธนาคารวงเงินจำหน่ายรวม 40,000 ล้านบาท มีจำนวนผู้ซื้อ 14,388 ราย ผู้ซื้ออายุน้อยสุด 3 ปี มากสุด 96 ปี โดยเป็นสัดส่วนรุ่นอายุ 4 ปี ต่อรุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ 88% และ 12% ของวงเงินจำหน่าย ตามลำดับ

การจำหน่ายให้กับประชาชน รุ่นอายุ 4 ปี ผู้ซื้อ 14,314 ราย โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่อายุ 60-69 ปี จำนวน 4,513 ราย และนิยมลงทุนช่วงวงเงินน้อยกว่า 5 แสนบาท จำนวน 5,461 ราย วงเงินซื้อเฉลี่ย 2,445,277.35 บาท/ราย การจำหน่ายให้นิติบุคคลไม่แสวงหากำไร รุ่นอายุ 10 ปี ผู้ซื้อ 74 ราย นิยมลงทุนในวงเงินที่เกิน 8 ล้านบาท ถึง 98.40% ของวงเงินจำหน่ายวงเงินซื้อเฉลี่ย 67,544,594.59 บาท/ราย