ทอท.ส่อขาดสภาพคล่องปีหน้า หลังโควิดทำพิษฉุดกระแสเงินสด
ทอท.โอดโควิด-19 ฉุดรายได้หล่นต่อเนื่อง เผยกระแสเงินสดในมือเหลือ 2.1 หมื่นล้านบาท ประเมิน ก.ค.ปีหน้าส่อขาดสภาพคล่อง ขณะที่กรณีอียูถอดไทยออกประเทศปลอดภัยโควิด ระบุหากเข้มงวดกักตัวหลังเดินทางกลับ อาจกระทบนโยบายนำร่องเปิดประเทศ
สำหรับความคืบหน้าในการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้อนุมัติกรอบวงเงินไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ด้านการบินช่วงเริ่มตารางบินฤดูหนาว ในเดือน ต.ค.นี้ เพราะอาจทำให้เห็นความชัดเจนเรื่องการเปิดน่านฟ้าของแต่ละประเทศ และทำให้คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารได้ ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจกู้เงิน โดยหากมีการเปิดน่านฟ้ามากก็อาจจะกู้เงินน้อยลง
นายนิตินัย ยังกล่าวด้วยว่า ยอมรับว่ามาตรการห้ามบินพื้นที่ 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รุนแรง เริ่ม 21 ก.ค.นี้ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินที่ทำการบินผ่านสนามบินของ ทอท. ให้ปรับลดลงอีก เนื่องจากทั้ง 2 สนามบินหลักของ ทอท. คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อยู่ในเขตจังหวัดห้ามทำการบิน
ส่วนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีสหภาพยุโรป (อียู) ได้ถอดประเทศไทย ออกจากรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยที่ควรเดินทางไปในช่วงโควิด-19 ซึ่งจะมีผลต่อการเดินทางระหว่างประเทศมายังภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัส เบื้องต้นยังไม่ส่งผลกระทบอย่างชัดเจน เพราะปัจจุบันจำนวนผู้เดินทางยังมีปริมาณน้อยอยู่ ประมาณวันละ 1 พันคน อีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและสมุยเป็นลักษณะของเกาะ มีมาตรการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ เชื่อว่าต่างชาติยังให้ความเชื่อมั่นมาตรการสาธารณะสุข
ขณะที่กรณีหลายฝ่ายกังวลว่าประเทศสมาชิกต่างๆ ในอียูจะออกมาตรการควบคุมการเดินทางกลับเข้าประเทศ เช่น ออกมาตรการกักตัวก่อนเข้าประเทศ กรณีมาท่องเที่ยวในไทยนั้น ปัจจุบัน ทอท.ยังอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการออกมาตรการกักตัว โดยหากมีการออกมาตรการดังกล่าว ก็อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย เพราะเป็นเรื่องของความไม่สะดวกในการเดินทาง